สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ - ๒๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ มำตรำ ๖๖ เพื่อประโยชน์แก่กำรรังวัด ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่และคนงำนมีอำนำจ เข้ำไปในที่ดินของผู้มีสิทธิในที่ดิน หรือผู้ครอบครองในเวลำกลำงวันได้ แต่จะต้องแจ้งให้ผู้มีสิทธิใน ที่ดินทรำบเสียก่อน และให้ผู้มีสิทธิในที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดินนั้นอำนวยควำมสะดวกตำมควรแก่กรณี ในกรณีต้องสร้ำงหมุดหลักฐำนกำรแผนที่ในที่ดินของผู้ใด ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มี อำนำจสร้ำงหมุดหลักฐำนลงได้ตำมควำมจำเป็น ในกำรรังวัด เมื่อมีควำมจำเป็นและโดยสมควร พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีอำนำจที่จะขุดดิน ตัด รำนกิ่งไม้หรือกระทำกำรอย่ำงอื่นแก่สิ่งที่กีดขวำงแก่กำรรังวัดได้เท่ำที่จำเป็น ทั้งนี้ ให้ระลึกถึง กำรที่จะให้เจ้ำของได้รับควำมเสียหำยน้อยที่สุด มำตรำ ๖๗ เมื่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ได้จัดทำหลักหมำยเขตที่ดิน หรือได้สร้ำงหมุด หลักฐำนเพื่อกำรแผนที่ลงไว้ในที่ใด ห้ำมมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดนอกจำกพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ทำลำย ดัดแปลง เคลื่อนย้ำย ถอดถอนหลักหมำยเขตหรือหมุดหลักฐำนเพื่อกำรแผนที่นั้นไปจำกที่เดิม เว้นแต่จะได้รับ อนุญำตจำกเจ้ำพนักงำนที่ดิน มำตรำ ๖๘ เมื่อบุคคลใดมีควำมจำเป็นที่จะต้องกระทำกำรตำมควำมในมำตรำ ๖๗ ให้ยื่นคำร้องต่อเจ้ำพนักงำนที่ดินเพื่อขออนุญำต ในกรณีที่เจ้ำพนักงำนที่ดินไม่อนุญำต ให้เจ้ำของที่ดินมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ ภำยในสิบห้ำวันนับจำกวันทรำบคำสั่งไม่อนุญำต ให้รัฐมนตรีสั่งภำยในหกสิบวันนับจำกวันได้รับ อุทธรณ์ คำสั่งรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด ถ้ำรัฐมนตรีไม่สั่งภำยในกำห ดหกสิบวันดัง ล่ำวในวรรคก่อน ให้ถือว่ำอุ ญำต มำตรำ ๖๙ เมื่อเป็นกำรสมควรจะทำกำรสอบเขตที่ดินตำมแผนที่ระวำงในท้องที่ใด ให้ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดประกำศให้ผู้มีสิทธิในที่ดินทรำบล่วงหน้ำไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวัน กำรประกำศให้ทำ หนังสือปิดไว้ในบริเวณที่ดินเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทรำบด้วย และให้แจ้งกำหนด วัน เวลำ ไปให้ผู้มีสิทธิ ในที่ดินทรำบอีกชั้นหนึ่ง และให้ผู้มีสิทธิในที่ดินนำพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ทำกำรรังวัดสอบเขตที่ดิน ผู้มีสิทธิในที่ดินตำมควำมในวรรคก่อน จะตั้งตัวแทนนำพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ทำกำร รังวัดสอบเขตที่ดินของตนก็ได้ ที่ดินที่ได้ทำกำรสอบเขตแล้ว ให้เจ้ำพนักงำนที่ดินมีอำนำจทำโฉนดที่ดินให้ใหม่ แทนฉบับเดิม ส่วนฉบับเดิมเป็นอันยกเลิกและให้ส่งคืน มำตรำ ๖๙ ทวิ ๕๒ ผู้มีสิทธิในที่ดินป ะสงค์จะขอสอบเขตโฉนดที่ดินเฉพ ะรำยของตน ให้ยื่นคำขอพร้อมด้วยโฉนดที่ดินนั้นต่อเจ้ำพนักงำนที่ดินและให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ไปทำกำรรังวัดให้ ในกำรรังวัด ถ้ำปรำกฏว่ำกำรครอบครองไม่ตรงกับแผนที่หรือเนื้อที่ในโฉนดที่ดิน เมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้ำงเคียงได้รับรองแนวเขตแล้ว ให้เจ้ำพนักงำนที่ดินมีอำนำจแก้ไขแผนที่หรือเนื้อที่ ให้ตรงกับควำมเป็นจริงได้ เว้นแต่จะเป็นกำรสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมำย ๕๒ มำตรำ ๖๙ ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยที่ดิน (ฉบับ ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3