สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ - ๓ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ในกรณีระยะเวลำแห่งกำรจับจองดังกล่ำวในวรรคแรกสิ้นสุดลง ก่อนวันที่ประมวล กฎหมำยที่ดินใช้บังคับ หำกปรำกฏว่ำกำรทำประโยชน์จำกที่ดินที่ได้รับอนุญำตให้จับจองอยู่ในสภำพ ที่จะพึงขอคำรับรองว่ำ ได้ทำประโยชน์ดังกล่ำวแล้วได้ ให้ยื่นคำขอต่อนำยอำเภอเพื่อขอคำรับรองเสีย ภำยในกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ประมวลกฎหมำยที่ดินใช้บังคับ เมื่อพ้นกำหนดเวลำ ดังกล่ำว ให้ถือว่ำที่ดินนั้นปลอดจำกกำรจับจองเว้นแต่นำยอำเภอได้มีคำสั่งผ่อนผันให้เป็นกำรเฉพำะรำย มำตรำ ๘ กำรพิจำรณำว่ำที่ดินได้ทำประโยชน์แล้วหรือไม่ ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ ที่กำหนดในกฎกระทรวง ที่ดินที่ได้รับอนุญำตให้จับจอง แต่ยังไม่ได้รับค รับรองจำกน ยอำเภอว่ำได้ทำ ประโยชน์แล้ว ผู้ได้รับอนุญำตจะโอนไปไม่ได้เว้นแต่จะตกทอดโดยทำงมรดก มำตรำ ๙ ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจำกนำยอำเภอว่ำ ได้ทำประโยชน์แล้ว ให้โอนกันได้ มำตรำ ๑๐ ที่ดินซึ่งได้หวงห้ำมไว้เพื่อประโยชน์ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรหวงห้ำม ที่ดินรกร้ำงว่ำงเปล่ำอันเป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดิน พุทธศักรำช ๒๔๗๘ หรือตำมกฎหมำยอื่น อยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมำยที่ดินใช้บังคับให้คงเป็นที่หวงห้ำมต่อไป มำตรำ ๑๑ ในเขตท้องที่ซึ่งได้ออกโฉนดตรำจองและตรำจองที่ตรำว่ำ “ได้ทำ ประโยชน์แล้ว” ก่อนวันที่ประมวลกฎหมำยที่ดินใช้บังคับ ให้คงใช้บทกฎหมำยว่ำด้วยกำรนั้น เฉพำะในส่วนที่บัญญัติถึงวิธีกำรรังวัดและกำรออ หนังสือสำคัญดังกล่ำวข้ำงต้นต่อไปจนกว่ำจะได้ ออกโฉนดที่ดินตำมประมวลกฎหมำยที่ดินแล้ว มำตรำ ๑๒ บุคคลใดจะได้มำซึ่งที่ดินโดยมีสัญญำจะซื้อจะขำย หรือสัญญำเช่ำซื้อ ซึ่งได้กระทำไว้ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้ำได้จดแจ้งสัญญำนั้นต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ตำม มำตรำ ๗๑ แห่งประมวลกฎหมำยที่ดิน ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่รัฐมนตรีกำหนด ภำยในหนึ่งร้อย ยี่สิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เมื่อได้มีกำรซื้อขำยไปตำมสัญญำเช่นว่ำนั้น ให้ถือเสมือน ว่ำผู้ซื้อหรือผู้เช่ำซื้อมีสิทธิในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมำยที่ดินใช้บังคับ มำตรำ ๑๓ บุคคลใดได้ขำยฝำกที่ดินไว้ก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้ำได้ทำ กำรไถ่ถอนที่ดินนั้น เมื่อประมวลกฎหมำยที่ดินได้ใช้บังคับแล้ว ให้ถือเสมือนว่ำผู้นั้นเป็นผู้มีสิทธิใน ที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมำยที่ดินใช้บังคับ มำตรำ ๑๔ บุคคลใดได้ดำเนินกำรขอจับจองที่ดินไว้ต่อพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ก่อนวันที่ พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ แต่ยังไม่ได้รับอนุญำต ให้นำยอำเภอมีอำนำจดำเนินกำรตำมนัยแห่ง พระรำชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พุทธศักรำช ๒๔๗๙ ต่อไปจนถึงที่สุดได้

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3