สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ - ๔๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ มำตรำ ๑๑๙ ๖๙ ในกรณีผิดสัญญำประกันต่อศำล ศำลมีอำนำจสั่งบังคับตำมสัญญำ ประกันหรือตำมที่ศำลเห็นสมควรโดยมิต้องฟ้อง ทั้งนี้ ศำลอำจสั่งงดกำรบังคับตำมสัญญำประกันหรือ ลดจำนวนเงินที่ต้องใช้ตำมสัญญำประกันก็ได้ โดยคำนึงถึงควำมพยำยำมของผู้ประกันในกำรติดตำม ตัวผู้ต้องหำหรือจำเลยที่หลบหนี รวมทั้งควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นว่ำมีมำกน้อยเพียงใดประกอบด้วย และ เมื่อศำลสั่งประกำรใดแล้วฝ่ำยผู้ถูกบังคับตำมสัญญำประกันหรือพนักงำนอัยกำรมีอำนำจอุทธรณ์ ได้ คำวินิจฉัยของศำลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด เงินสดหรือหลักทรัพย์อื่นที่นำมำวำงต่อศำลเพื่อเป็นหลักประกันตำมมำตรำ ๑๑๔ ไม่อยู่ในข่ำยที่จะถูกยึดหรืออำยัดเพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้ำหนี้อื่นจนกว่ำควำมรับผิดตำมสัญญำประกันจะ ระงับสิ้นไป เว้นแต่ศำลเห็นว่ำหนี้ของเจ้ำหี้ นั้นมิได้เกิดจำกกำรฉ้อฉลและมีคำสั่งให้ปล่อยทั พย์ ดังกล่ำว ในกรณีที่จำเป็นต้องมีกำรบังคับคดีเพรำะผิดสัญญำประกันตำมวรรคหนึ่ง ให้ศำลมี อำนำจออกหมำยบังคับคดีหรือคำสั่งอื่นใดเพื่อบังคับเอำแก่ทรัพย์สินของบุคคลซึ่งต้องรับผิดตำม สัญญำประกันได้เสมือนว่ำเป็นลูกหนี้ตำมคำพิพำกษำ โดยให้เจ้ำพนักงำนศำลที่ได้รับแต่งตั้ งและ พนักงำนอัยกำรเป็นผู้มีอำนำจหน้ำที่ในกำรบังคับตำมสัญญำประกัน และให้เจ้ำพนักงำนบังคับคดี กรมบังคับคดี มีอำนำจหน้ำที่ยึดหรืออำยัดทรัพย์สินของผู้ประกันและขำยทอดตลำดตำมที่ได้รับแจ้ง จำกศำล หรือพนักงำนอัยกำร และถ้ำจะต้องขำยทรัพย์สินที่วำงเป็นหลักประกันไว้ต่อศำล เมื่อศำลส่ง ทรัพย์สินหรือหนังสือสำคัญสำหรับทรัพย์สินนั้นไปยังเจ้ำพนักงำนบังคับคดี กรมบังคับคดี ให้ถือว่ำได้มี กำรยึดทรัพย์สินดังกล่ำวแล้ว ทั้งนี้ มิให้หน่วยงำนของรัฐเรียกค่ำฤชำธรรมเนียมหรือค่ำใช้จ่ำยจำก ผู้ดำเนินกำรบังคับคดี ำรบังคับคดีตำมมำตรำนี้ ให้ปฏิบัติตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ วำมแพ่ง โดยอนุโลม เว้นแต่ประธำนศำลฎีกำโดยควำมเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ศำลฎีกำจะออกข้อบังคับ กำหนดไว้เป็นอย่ำงอื่น ข้อบังคับนั้นเมื่อประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำแล้วให้ใช้บังคับได้ มำตรำ ๑๑๙ ทวิ ๗๐ ในกรณีที่ศำลสั่งไม่อนุญำตให้ปล่อยชั่วครำว ผู้ร้องขอมีสิทธิยื่น คำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ ดังต่อไปนี้ (๑) คำสั่งของศำลชั้นต้น ให้อุทธรณ์ไปยังศำลอุทธรณ์ (๒) คำสั่งของศำลอุทธรณ์ ให้อุทธรณ์ไปยังศำลฎีกำ ให้ศำลชั้นต้นที่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งรีบส่งคำร้องดังกล่ำวพร้อมด้วยสำนวนควำม หรือสำเนำสำนวนควำมเท่ำที่จำเป็นไปยังศำลอุทธรณ์หรือศำลฎีก แล้วแต่กรณี เพื่อพิจำรณำ และมี คำสั่งโดยเร็ว คำสั่งของศำลอุทธรณ์ที่ไม่อุ ญำตให้ปล่อยชั่วครำวยืนตำมศำลชั้นต้นให้เป็นที่สุด แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิที่จะยื่นคำร้องให้ปล่อยชั่วครำวใหม่ ภำค ๒ ๖๙ มำตรำ ๑๑๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ ควำมอำญำ (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๕๘ ๗๐ มำตรำ ๑๑๙ ทวิ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ ควำมอำญำ (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๒๗

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3