สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ - ๗๑ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ (๑) ถ้ำคู่ควำมฝ่ำยใดขอแถลงกำรณ์ ให้ฝ่ำยนั้นแถลงก่อน แล้วให้อีกฝ่ำยหนึ่งแถลง แก้ เสร็จแล้วฝ่ำยแถลงก่อนแถลงแก้ได้อีก (๒) ถ้ำคู่ควำมทั้งสองฝ่ำยขอแถลงกำรณ์ ให้ผู้อุทธรณ์แถลงก่อน แล้วให้อีกฝ่ำยหนึ่ง แถลงแก้ เสร็จแล้วให้ผู้อุทธรณ์แถลงแก้ได้อีก (๓) ถ้ำคู่ควำมทั้งสองฝ่ำยขอแถลงกำรณ์และเป็นผู้อุทธรณ์ทั้งคู่ ให้โจทก์แถลงก่อน แล้วให้จำเลยแถลง เสร็จแล้วโจทก์แถลงแก้ได้อีก มำตรำ ๒๐๗ เมื่อมีอุทธรณ์คำพิพำกษำ ศำลอุทธรณ์มีอำนำจสั่งให้ศำลชั้นต้นออก หมำยเรียกหรือจับจำเลย ซึ่งศำลนั้นปล่อยตัวไปแล้ว ำขังหรือปล่อยชั่วครำวระหว่ำงอุทธรณ์ก็ได้ หรือถ้ำจำเลยถูกขังอยู่ระหว่ำงอุทธรณ์จะสั่งให้ศำลชั้นต้นปล่อยจำเลยหรือปล่อยชั่วครำวก็ได้ มำตรำ ๒๐๘ ในกำรพิจำรณำคดีอุทธรณ์ตำมหมวดนี้ (๑) ถ้ำศำลอุทธรณ์เห็นว่ำควรสืบพยำนเพิ่มเติม ให้มีอำนำจเรียกพยำนมำสืบเอง หรือสั่งศำลชั้นต้นสืบให้ เมื่อศำลชั้นต้นสืบพยำนแล้ว ให้ส่งสำนวนมำยังศำลอุทธรณ์เพื่อวินิจฉัยต่อไป (๒) ถ้ำศำลอุทธรณ์เห็นเป็นกำรจำเป็น เนื่องจำกศำลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตำม กระบวนพิจำรณำ ก็ให้พิพำกษำสั่งให้ศำลชั้นต้นทำกำรพิจำรณำและพิพำกษำหรือสั่งใหม่ตำมรูปคดี มำตรำ ๒๐๘ ทวิ ๑๓๗ ถ้ำอธิบดีผู้พิพำกษำศำลอุทธรณ์เห็นสมควร จะให้มีกำร วินิจฉัยปัญหำใด ในคดีเรื่องใด โดยที่ประชุมใหญ่ก็ได้ ที่ประชุมใหญ่ให้ประกอบด้วยผู้พิพำกษ ทุกคนซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้ ที่ แต่ต้องไม่น้อย กว่ำกึ่งจำนวนผู้พิพำกษำแห่งศำลนั้น และให้อธิบดีผู้พิพำกษำศำลอุทธรณ์เป็นประธำน กำรวินิจฉัยในที่ประชุมใหญ่ให้ถือเสียงข้ำงมำก ถ้ำในปัญหำใดมีควำมเห็นแย้งกัน เป็นสองฝ่ำย หรือเกินสองฝ่ำยขึ้นไป จะหำเสียงข้ำงมำกมิได้ ให้ผู้พิพำกษำซึ่งมีควำมเห็นเป็นผลร้ำย แก่จำเลยมำกยอมเห็นด้วยผู้พิพำกษำซึ่งมีควำมเห็นเป็นผลร้ำยแก่จำเลยน้อยกว่ำ ในคดีซึ่งที่ประชุมใหญ่ได้วินิจฉัยปัญหำแล้ว คำพิพำกษำหรือคำสั่งต้องเป็นไปตำม คำวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่ และต้องระบุไว้ด้วยว่ำปัญหำข้อใดได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ผู้พิพำกษำ ที่เข้ำประชุม แม้มิใช่เป็นผู้นั่งพิจำรณำ ก็ให้มีอำนำจพิพำกษำ ทำคำสั่ง หรือทำควำมเห็นแย้งในคดีนั้นได้ มำตร ๒๐๙ ให้ศำลอุทธรณ์พิพำกษำโดยมิชักช้ำ และจะอ่ นคำพิพำกษำที่ศำล อุทธรณ์ หรือส่งไปให้ศำลชั้นต้นอ่ำนก็ได้ มำตรำ ๒๑๐ เมื่อศำลอุทธรณ์เห็นว่ำฟ้องอุทธรณ์มิได้ยื่นในกำหนด ให้พิพำกษำ ยกฟ้องอุทธรณ์นั้นเสีย มำตรำ ๒๑๑ เมื่อมีอุทธรณ์คัดค้ำนคำพิพำกษำในประเด็นสำคัญและคัดค้ำนคำสั่ง ระหว่ำงพิจำรณำด้วย ศำลอุทธรณ์จะพิพำกษำโดยคำพิพำกษำอันเดียวกันก็ได้ ๑๓๗ มำตรำ ๒๐๘ ทวิ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ ควำมอำญำ (ฉะบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๗
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3