สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ - ๘ - สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ มำตรำ ๔ ในคดีอำญำซึ่งผู้เสียหำยเป็นหญิงมีสำมี หญิงนั้นมีสิทธิฟ้องคดีได้เอง โดยมิต้องได้รับอนุญำตของสำมีก่อน ภำยใต้บังคับแห่งมำตรำ ๕ (๒) สำมีมีสิทธิฟ้องคดีอำญำแทนภริยำได้ ต่อเมื่อได้รับ อนุญำตโดยชัดแจ้งจำกภริยำ มำตรำ ๕ บุคคลเหล่ำนี้จัดกำรแทนผู้เสียหำยได้ (๑) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบำล เฉพำะแต่ในควำมผิดซึ่งได้กระทำต่อผู้เยำว์ หรือผู้ไร้ควำ ส มำรถซึ่งอยู่ในควำมดูแล (๒) ผู้บุพกำรี ผู้สืบสันดำน สำมีหรือภริยำเฉพำะแต่ในควำมผิดอำญำ ซึ่งผู้เสียหำย ถูกทำร้ำยถึงตำยหรือบำดเจ็บจนไม่สำมำรถจะจัดกำรเองได้ (๓) ผู้จัดกำรหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคล เฉพำะควำมผิดซึ่งกระทำลงแก่ นิติบุคคลนั้น มำตรำ ๖ ในคดีอำญำซึ่งผู้เสียหำยเป็นผู้เยำว์ไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม หรือเป็น ผู้วิกลจริตหรือคนไร้ควำมสำมำรถไม่มีผู้อนุบำล หรือซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบำลไม่สำมำรถ จะทำกำรตำมหน้ำที่โดยเหตุหนึ่งเหตุใด รวมทั้งมีผลประโยชน์ขัดกันกับผู้เยำว์หรือคนไร้ควำมสำมำรถ นั้น ๆ ญำติของผู้นั้น หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องอำจร้องต่อศำลขอให้ตั้งเขำเป็นผู้แทนเฉพำะคดีได้ เมื่อได้ไต่สวนแล้วให้ศำลตั้งผู้ร้องหรือบุคคลอื่น ซึ่งยินยอมตำมที่เห็นสมควรเป็น ผู้แทนเฉพำะคดี เมื่อไม่มีบุคคลใดเป็นผู้แทนให้ศำลตั้งพนักงำนฝ่ำยปกครองเป็นผู้แท ห้ำมมิให้เรียกค่ำธรรมเนียมในเรื่องขอตั้งเป็นผู้แทนเฉพำะคดี มำตรำ ๗ ในกำรสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจำรณำคดีที่นิติบุคคลเป็นผู้ต้องหำ หรือจำเลย ให้ออกหมำยเรียกผู้จัดกำรหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลนั้น ให้ไปยังพนักงำนสอบสวน หรือศำล แล้วแต่กรณี ถ้ำผู้จัดกำรหรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นไม่ปฏิบัติตำมหมำยเรียก จะออกหมำยจับ ผู้นั้นมำก็ได้ แต่ห้ำมมิให้ใช้บทบัญญัติว่ำด้วยปล่อยชั่วครำว ขังหรือจำคุกแก่ผู้จัดกำรหรือผู้แทน นิติบุคคล ในคดีที่นิติบุคคลนั้นเป็นผู้ต้องหำหรือจำเลย มำตรำ ๗/๑ ๕ ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหำซึ่งถูกควบคุมหรือขังมีสิทธิแจ้งหรือขอให้ เจ้ำพนักงำนแจ้งให้ญำติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหำไว้วำงใจทรำบถึงกำรถูกจับกุมและสถำนที่ ที่ถูกควบคุมในโอกำสแรกและให้ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหำมีสิทธิดังต่อไปนี้ด้วย (๑) พบและปรึกษำผู้ซึ่งจะเป็นทนำยควำมเป็นกำรเฉพำะตัว (๒) ให้ทนำยควำมหรือผู้ซึ่งตนไว้วำงใจเข้ำฟังกำรสอบปำกคำตนได้ในชั้นสอบสวน (๓) ได้รับกำรเยี่ยมหรือติดต่อกับญำติได้ตำมสมควร (๔) ได้รับกำรรักษำพยำบำลโดยเร็วเมื่อเกิดกำรเจ็บป่วย ๕ มำตรำ ๗/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ ควำมอำญำ (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๔๗

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3