สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - ๑๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา ๔๖ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งอธิบดี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองอธิบดีเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองอธิบดีหลายคน ให้ปลัดกระทรวงแต่งตั้งรองอธิบดีคนใด คนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองอธิบดีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ ปลัดกระทรวงแต่งตั้งข้าราชการในกรมซึ่งดํารงตําแหน่งเทียบเท่ารองอธิบดี หรือข้าราชการตั้งแต่ ตําแหน่งหัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน แต่ถ้านายกรัฐมนตรี สําหรับสํานักนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเห็นสมควรเพื่อความเหมาะสมแก่การ รับผิดชอบการปฏิบัติราชการในกรมนั้น นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงจะแต่งตั้ง ข้ ราชการคนใดคนหนึ่งซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่ารองอธิบดีหรือเทียบเท่า เป็นผู้รักษาราชการแทน็ ได้ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองอธิบดี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ อธิบดีจะ แต่งตั้งข้าราชการในกรมซึ่งดํารงตําแหน่งเทียบเท่ารองอธิบดี หรือข้าราชการตั้งแต่ตําแหน่งหัวหน้า กองหรือเทียบเท่าขึ้นไปเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้ ให้นําความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาใช้บังคับแก่กรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่ง เลขาธิการ รองเลขาธิการ ผู้อํานวยการ รองผู้อํานวยการ หรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งเทียบเท่า ปลัดกระทรวงหรืออธิบดี ในส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเป็นกรมด้วยโดยอนุโลม มาตรา ๔๗ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งเลขานุการกรมตามมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง หรือหัวหน้าส่วนราชการตามมาตรา ๓๓ วรรคสอง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้อธิบดีแต่งตั้ง ข้ ราชกา ใน รมคนหนึ่งซึ่งดํารงตําแห่ งไม่ต่ํากว่าหัวหน้ากองหรือเทียบเท่า เป็นผู้รักษาราชการ แทน ให้นําความในมาตรานี้มาใช้บังคับแก่ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็น กรมด้วยโดยอนุโลม มาตรา ๔๘ ให้ผู้รักษาราชการแทนตามความในพระราชบัญญัตินี้มีอํานาจหน้าที่ เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน ในกรณีที่ผู้ดํารงตําแหน่งใดหรือผู้รักษาราชการแทนผู้ดํารงตําแหน่งนั้นมอบหมาย หรือมอบอํานาจให้ผู้ดํารงตําแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทน ให้ผู้ปฏิบัติราชการแทนมีอํานาจหน้าที่ เช่นเดียวกับผู้ซึ่งมอบหมายหรือมอบอํานาจ ในกรณีที่มีกฎหมายอื่นแต่งตั้งให้ผู้ดํารงตําแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีอํานาจ หน้าที่อย่างใด ให้ผู้รักษ ราชการแทนหรือผู้ปฏิบัติราช แทนมีอํานาจหน้าที่เป็ รรมการหื อมี อํานาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ดํารงตําแหน่งนั้นในการรักษาราชการแทนหรือปฏิบัติราชการแทนด้วย แล้วแต่กรณี มาตรา ๔๙ การเป็นผู้รักษาราชการแทนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือน อํานาจนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด ปลัดกระทรวง หรือผู้ดํารงตําแหน่งเทียบเท่าปลัดกระทรวง ปลัดทบวง อธิบดีหรือผู้ดํารงตําแหน่งเทียบเท่าอธิบดี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะแต่งตั้งข้าราชการอื่น เป็นผู้รักษาราชการแทนตามอํานาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3