ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
106 (5) เกียจคร้าน ละทิ้ง หรือเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ (6) กล่าวคาเท็จ (7) ใช้กิริยาวาจาไม่สมควร หรือประพฤติไม่สมควร (8) ไม่ตักเตือนสั่งสอน หรือลงทัณฑ์ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทาผิดตามโทษานุโทษ (9) เสพเครื่องดองของเมาจนถึงเสียกิริยา 3. ทหารผู้ใดกระทาผิดต้อวินัยทหารจักต้องรับทัณฑ์ตามวิธีที่กฎหมายกาหนดไว้ และอาจ ต้องถูกปลดจากประจาการ หรือถูกถอดจากยศทหาร ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476 ทั้งนี้ แม้การดาเนินการเกี่ยวกับวินัยทหารจะเป็นการใช้อานาจปกครอง แต่มาตรา 9 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 กาหนดเป็น ข้อยกเว้นไว้ว่า คดีพิพาทเกี่ยวกับการดาเนินการเกี่ยวกับวินัยทหารไม่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ ศาลปกครอง โดยคดีพิพาทเกี่ยวกับการดาเนินการเกี่ยวกับวินัยทหารจะอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ ศาลยุติธรรม คาวินิจฉัยชี้ขาดอานาจหนาที่ระหวางศาลที่ 20/2556 คดีที่โจทกฟองกระทรวงกลาโหม เป็นจาเลย โดยอ้างว่าจาเลยกระทาละเมิด กรณีมีคาสั่งใหโจทกออกจากราชการทหาร และขอใหชดใช้ คาเสียหาย ใหเพิกถอนคาสั่ง กับใหโจทกกลับเขารับราชการนั้น เมื่อการออกคาสั่งของจาเลยเปนไปตาม พระราชบัญญัติระเบียบขาราชการทหาร พ.ศ. 2521 จึงเปนเรื่องวินัยทหารตามพระราชบัญญัติวาดวยวินัย ทหาร พ.ศ. 2476 คดีนี้จึงไมอยูในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แหงพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการ ดาเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร ตามมาตรา 9 วรรคสอง (1) แห งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและ วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งอยูในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม คาวินิจฉัยชี้ขาดอานาจหนาที่ระหวางศาลที่ 51/2564 การที่โจทก์ยื่นฟูองคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นจาเลยที่ 1 กระทรวงกลาโหม เป็นจาเลยที่ 2 โดยอ้างว่ามติของจาเลยที่ 1 ที่ชี้ว่าโจทก์กระทา ความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 ประกอบพระราชบัญญัติ ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476 และทาความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ปูองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 เป็นไปโดยไม่ ชอบด้วยกฎหมาย และคาสั่งลงโทษทางวินัยปลดโจทก์ออกจากราชการของจา เลยที่ 2 ที่ออกตามมติของ จาเลยที่ 1 เป็นคาสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีคาสั่ง เพิกถอนมติของจา เลยที่ 1 และให้ เพิกถอนคาสั่งของจาเลยที่ 2 นั้น เมื่อจาเลยที่ 2 ออกคาสั่งโดยอาศัยอานาจตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 จึงเป็นเรื่องวินัยทหารตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476 คดีนี้จึง เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการดาเนินการเกี่ยวกับวินัยทหาร ตามมาตรา 9 วรรคสอง (1) แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คดีนี้จึงไม่อยู่ในอานาจพิจารณา พิพากษาของศาลปกครอง แต่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3