ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

112 ของผู้ถูกฟูองคดีที่สั่งให้ผู้ฟูองคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีผู้ฟูองคดีปฏิบัติหน้าที่ขับรถไฟด้วย ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทาให้ผู้ถูกฟูองคดีได้รับความเสียหายนั้น เป็นคดีพิพาทอันเกิด แต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง สืบเนื่องจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับการทางานตามสัญญาจ้าง แรงงานตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 คดีนี้จึงไม่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ. 2542 แต่เป็นคดีที่อยู่ในอานาจพิจารณา พิพากษาของศาลแรงงาน คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คผ.55/2562 เมื่อผู้ฟูองคดีเป็นพนักงานในสังกัดของผู้ถูกฟูอง คดีซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ นิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟูองคดีกับผู้ถูกฟูองคดีจึงเป็นลูกจ้างนายจ้างกัน การที่ผู้ถูกฟูองคดี ออกคาสั่งให้ผู้ฟูองคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ถูกฟูองคดี เนื่องจากการที่ผู้ฟูองคดีปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ถูกฟูองคดีนั้น จึงเป็นคดี อันเกิดแต่มูล ละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเกี่ยวกับการทางานตามสัญญาจ้างแรงงาน อันอยู่ในอานาจพิจารณา พิพากษาหรือมีคาสั่งของศาลแรงงานตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและ วิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 และไม่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรค สอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คร.178/2564 แม้ว่าการยางแห่งประเทศไทยจะเป็น รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ อันเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แต่ความเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจของผู้ฟูองคดี เกิดขึ้นตามสัญญาจ้าง ไม่ใช่การบรรจุแต่งตั้งอย่างข้าราชการ นิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟูองคดีกับการยางแห่ง ประเทศไทย จึงเป็นนิติสัมพันธ์ในฐานะลูกจ้างกับนายจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน คดีนี้จึงอยู่ในอานาจพิจารณา พิพากษาของศาลแรงงาน และไม่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คบ.234/2564 การฟูองขอให้ศาลเพิกถอนคาสั่งของ ผู้อานวยการองค์การตลาดซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ลงโทษปลดผู้ฟูองคดีออกจากการเป็นพนักงาน เป็นคดีพิพาท เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ซึ่งอยู่ในอานาจพิจารณา พิพากษาของศาลแรงงาน และไม่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คผ.170/2564 แม้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพซึ่งเป็น ผู้ถูกฟูองคดีที่ 1 จะเป็นรัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกา อันเป็นหน่วยงานทางปกครอง และ ผู้อานวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพซึ่งเป็นผู้ถูกฟูองคดีที่ 2 จะเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานทาง ปกครอง อันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี ปกครอง พ.ศ. 2542 แต่การที่ผู้ฟูองคดีฟูองว่าคาสั่งของผู้ถูกฟูองคดีที่ 2 ที่สั่งให้ผู้ฟูองคดีชดใช้ค่าเสียหายทาง

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3