ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

113 ละเมิด เป็นคาสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลมีคาพิพากษาหรือคาสั่งเพิกถอนคาสั่งดังกล่าว และขอให้ ผู้ถูกฟูองคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟูองคดีนั้น เป็นคดีพิพาทอันเกิดแต่มูลละเมิด ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเกี่ยวกับการทางานตามสัญญาจ้างแรงงาน ที่อยู่ในอานาจของศาลแรงงานตาม มาตรา 8 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 และ ไม่อยู่ในอานาจของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและ วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คบ.20/2565 การฟูองว่าผู้ถูกฟูองคดีคือธนาคารพัฒนา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ มีคาสั่งลงโทษทางวินัยผู้ฟูองคดี และ บันทึกประวัติการลงโทษทางวินัยดังกล่าวไว้ในประวัติการทางานของผู้ฟูองคดี เป็นเหตุให้ผู้ฟูองคดีได้รับความ เสียหายนั้น เป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพ การจ้าง และคดีอันเกิดแต่มูลละเมิด ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างสืบเนื่องจากข้อพิพาทแรงงานหรือเกี่ยวกับ การทางานตามสัญญาจ้างแรงงาน ซึ่งอยู่ในอานาจของศาลแรงงานตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (1) และ (5) แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 และไม่อยู่ในอานาจของศาลปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 40/2565 การที่ผู้ฟูองคดีอ้างว่าผู้อานวยการโรงเรียนเอกชน ซึ่งเป็นผู้ถูกฟูองคดีได้บังคับ ข่มขู่ หลอกหลวงให้ผู้ฟูองคดีลงลายมือชื่อในหนังสือขอลาออกจากการเป็นครู เป็นการเลิกสัญญาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เมื่อการกระทาดังกล่าวของผู้ถูกฟูองคดีมิได้เป็นการใช้อานาจ ทางปกครองหรือดาเนินกิจการทางปกครองตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ ผู้ถูกฟูองคดีจึงไม่ใช่หน่วยงาน ทางปกครอง นอกจากนี้ สัญญาจ้างครูระหว่างผู้ฟูองคดีกับผู้ถูกฟูองคดีเป็นสัญญาจ้างแรงงาน เมื่อผู้ฟูองคดี ฟูองขอให้ผู้ถูกฟูองคดีเพิกถอนคาสั่งที่อนุมัติให้ผู้ฟูองคดีลาออกจากการเป็นครู และให้จ่ายค่าชดเชยรวมทั้ง ค่าสินไหมทดแทน กรณีจึงเป็นคดีพิพาทระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างเกี่ยวด้วยสิทธิ หรือหน้าที่ตามสัญญาจ้าง แรงงาน อันอยู่ในอานาจของศาลแรงงานตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 และไม่อยู่ในอานาจของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 3.3.3 คดีที่อยู่ในอานาจของศาลภาษีอากร ศาลภาษีอากรมีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งในเรื่องที่กาหนดไว้ในมาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 ดังต่อไปนี้ (1) คดีอุทธรณ์คาวินิจฉัยของเจ้าพนักงานหรือคณะกรรมการตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษี อากร (2) คดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากร (3) คดีพิพาทเกี่ยวกับการขอคืนค่าภาษีอากร

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3