ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

114 (4) คดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามข้อผูกพันซึ่งได้ทาขึ้นเพื่อประโยชน์แก่การจัดเก็บ ภาษีอากร (5) คดีที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอานาจศาลภาษีอากร คาวินิจฉัยชี้ขาดอานาจหนาที่ระหวางศาลที่ 57/2565 โจทก์ฟูองกรมสรรพากรเป็น จาเลย เนื่องจากจาเลยมีคาสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินของโจทก์ อันเป็นการใช้อานาจตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นมาตรการบังคับทางปกครองเพื่อให้ได้รับชาระภาษีอากรค้าง และเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ ค่าภาษีอากร เมื่อโจทก์โต้แย้งว่าการใช้สิทธิเรียกร้องดังกล่าวเป็นการกระทาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีคาขอให้จาเลยเพิกถอนคาสั่ง ดังกล่าว และคืนทรัพย์สินแก่โจทก์ ซึ่งมาตรา 63/13 (1) แห่ง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กาหนดว่าการโต้แย้งหรือการใช้สิทธิทางศาล เกี่ยวกับการยึดหรือการอายัดทรัพย์สินเพื่อให้ได้รับชาระภาษีอากรค้าง ให้เสนอต่อศาลภาษีอากร กรณีจึงเป็น คดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากร และเป็นคดีที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอานาจ ศาลภาษีอากร ตามมาตรา 7 (2) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษี อากร พ.ศ. 2528 คดีนี้จึงอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลภาษีอากร คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คผ.112/2560 การฟูองว่าผู้ถูกฟูองคดีกระทาละเมิดอันเกิด จากการละเลยต่อหน้าที่ในการคืนภาษีตามคาขอของผู้ฟูองคดี หรือปฏิบัตหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควรนั้น เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการขอคืนค่าภาษีอากร ซึ่งอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลภาษีอากรตาม มาตรา 7 (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 คดีนี้จึงไม่ อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คร.103/2564 คาสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินของ ผู้ฟูองคดีเพื่อนาเงินมาชาระหนี้ค่าภาษีอากร เป็นกระบวนการของเจ้าพนักงานในการเรียกร้องหนี้ค่าภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร เมื่อผู้ฟูองคดีโต้แย้งว่าการดาเนินการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คดีนี้จึงเป็นข้อพิพาท เกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ค่าภาษีอากร ที่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลภาษีอากร ตามมาตรา 7 (2) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 และไม่อยู่ ในอานาจของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคสอง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คร . 119/2565 การฟูอง ว่าการประเมินภาษีที่ดิน ของนายกองค์การบริหารส่วนตาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี ประจาจังหวัดมิได้พิจารณาหนังสืออุทธรณ์ของผู้ฟูองคดีให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน อันเป็นการละเลยต่อหน้าที่ นั้น แม้คดีนี้จะเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาการโดยไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกาหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกิน สมควรตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี ปกครอง พ.ศ. 2542 แต่เมื่อคดีนี้ผู้ฟูองคดีประสงค์ที่จะโต้แย้งคัดค้านการประเมินภาษีที่ดิน ตามมาตรา 44

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3