ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

125 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 และ เมื่อเป็นกฎที่ออกโดย คณะรัฐมนตรีหรือโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงเป็นคดีพิพาทที่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ ศาลปกครองสูงสุดตามมาตรา 11 (2) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ฟผ.1/2564 การฟูองขอให้ศาลเพิกถอนพระราชกฤษฎีกา กาหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทาการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเนื่องจากการออกกฎ ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 และเป็นคดีพิพาทที่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษา ของศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา 11 (2) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน 2.1.3 คดีที่มีกฎหมายกาหนดให้อยู่ในอานาจศาลปกครองสูงสุด เช่น การฟูองคดีเกี่ยวกับ คาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ตามมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชพลเรือน พ.ศ. 2551 เป็นต้น คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟง.2/2564 การที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินซึ่ง เป็นผู้ถูกฟูองคดีได้มีคาวินิจฉัยชี้ขาดความผิดวินัยทางงบประมาณและการคลัง ลงโทษปรบทางปกครอง ผู้ถูกฟูองคดีเป็นเงินค่าปรับทางปกครอง 73,800 บาท แต่ผู้ฟูองคดีเห็นว่าคาวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วย กฎหมาย และได้ยื่นฟูองขอให้เพิกถอนคาวินิจฉัยดังกล่าวนั้น เมื่อคดีนี้เป็นกรณีที่ผู้ถูกฟูองคดีใช้อานาจ สั่งลงโทษทางปกครอง ซึ่งผู้ถูกสั่งลงโทษทางปกครองสามารถอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับคาสั่ง ตามมาตรา 240 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบ กับมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561 คดีนี้จึงอยู่ใน อานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตามมาตรา 11 (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ฟร. 18/2562 กรณีฟูองขอให้ศาลเพิกถอนประกาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องกาหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการฟูองคดีที่มีกฎหมาย กาหนดให้อยู่ในอานาจศาลปกครองสูงสุดตามมาตรา 11 (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและ วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบมาตรา 17 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 2.1.4 คดีที่อุทธรณ์คาพิพากษาหรือคาสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ศาลปกครองมีแค่เพียง 2 ชั้น เท่านั้น คือ ศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครองสูงสุด ดังนั้น หากคู่กรณีไม่พอใจคาพิพากษาหรือคาสั่งของ ศาลปกครองชั้นต้น คู่กรณีก็ต้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด 2.2 คดีที่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น คดีที่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง แต่มิได้อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ ศาลปกครองสูงสุด จะอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ตามมาตรา 10 แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542