ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

130 คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 175/2563 การที่กรมที่ดินมีคาสั่ง ลงโทษไล่ผู้ฟูองคดีออกจากราชการ ตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการปูองกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นการกระทาที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่เป็นการกระทาละเมิดต่อผู้ฟูองคดี ดังนั้น ผู้ฟูองคดี จึงมิได้เป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ตาม มาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 3.1.4 คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 3.1.4.1 กรณีเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 99/2563 ผู้ฟูองคดีทาสัญญาขายเตียงผ่าตัดทั่วไป ระบบไฟฟูาให้แก่จังหวัด อันมีลักษณะเป็นสัญญาทางปกครอง เมื่อผู้ฟูองคดีเป็นฝุายถูกบอกเลิกสัญญา ผู้ฟูองคดีจึงเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหาย โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 730/2566 การที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นผู้ถูกฟูอง คดีได้ทาสัญญากับบริษัท พ. ผู้ฟูองคดี ให้สิทธิและดูแลบารุงรักษาถังรองรับขยะและกล่องไฟปูายขนาดเล็ก ริมถนนนั้น เมื่อผู้ถูกฟูองคดีประพฤติผิดสัญญาพิพาท และผู้ฟูองคดีได้บอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้ว ผู้ฟูองคดีจึง เป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากการมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 3.1.4.2 กรณีไม่เป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย กรณีผู้ฟูองคดีมิได้เป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อน หรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องจากการมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง เช่น ผู้ฟูองคดีไม่ใช่ คู่สัญญา สัญญายังไม่เลิก เป็นต้น คาสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 518/2563 การที่ผู้อานวยการศูนย์พัฒนาการจัด สวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้ถูกฟูองคดี ได้มีหนังสือฯ ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2566 บอกเลิกสัญญาการเข้าพักในบ้านพักผู้สูงอายุ โดยระบุว่าผู้ฟูองคดีผิดสัญญา ขอให้ผู้ฟูองคดีมาดาเนินการบอกเลิกสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 หากพ้นกาหนดแล้ว ผู้ถูกฟูองคดีขอดาเนินการยกเลิกสัญญาการเข้าพักอาศัยในบ้านพัก ผู้สูงอายุนั้น ถือได้ว่าสัญญาดังกล่าวจะมีผลเป็นการเลิกสัญญานับตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2566 เมื่อผู้ฟูองคดี นาคดีมาฟูองต่อศาลในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ซึ่งสัญญาดังกล่าวจยังไม่มีผลเป็นการเลิกสัญญา ผู้ฟูองคดี จึงมิได้เป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3