ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

39 บทที่ 5 การแสวงหาข้อเท็จจริง การสรุปสานวนคดี และการกาหนดวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริง 1. บทนา ในปัจจุบัน (พ.ศ. 2567) ประเทศมี 4 ศาล คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม และ ศาลทหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองใช้วิธีพิจารณาคดีระบบไต่สวน ส่วนศาลยุติธรรมและ ศาลทหารใช้วิธีพิจารณาคดีระบบกล่าวหา 12 สาหรับ ศาลปกครองใช้ระบบพิจารณาคดีแบบไต่สวน กล่าวคือ ตุลาการมีอานาจหน้าที่ในการ แสวงหาข้อเท็จจริง และเมื่อตุลาการได้ทาการแสวงหาข้อเท็จจริง จนปรากฏข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะพิจารณา พิพากษาหรือมีคาสั่งได้แล้ว ก็จะมีการสรุปสานวนคดี เพื่อพิจารณาและมีคาพิพากษาหรือมีคาสั่งต่อไป 2. การแสวงหาข้อเท็จจริง การแสวงหาข้อเท็จจริง แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1. การแสวงหาข้อเท็จจริงจากคู่กรณี 2. การแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมของศาล 2.1 การแสวงหาข้อเท็จจริงจากคู่กรณี ตุลาการเจ้าของสานวนมีอานาจหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงจากคู่กรณี กล่าวคือ ให้ตุลาการ เจ้าของสานวนทาหน้าที่ตรวจสอบและเสนอความเห็นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อองค์คณะพิจารณา พิพากษา ตลอดจนดาเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนั้น โดยในระหว่างการดาเนินการของตุลาการเจ้าของ สานวนดังกล่าว ให้เปิดโอกาสให้คู่กรณีได้ทราบถึงข้ออ้างหรือข้อแย้งของแต่ละฝุาย และให้คู่กรณีแสดง พยานหลักฐานของฝุายตนเพื่อยืนยันหรือหักล้างข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายได้ เมื่อตุลาการเจ้าของสานวนเห็น ว่าได้รวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพียงพอแล้ว ให้ตุลาการเจ้าของสานวนทาความเห็นเสนอให้องค์คณะ พิจารณาพิพากษาเพื่อพิจารณาคดีต่อไป ตามมาตรา 57 วรรคสองและวรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 สาหรับการแสวงหาข้อเท็จจริงจากผู้ฟูองคดีและผู้ถูกฟูองคดีดังกล่าว แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ คาฟูอง คาให้การ คาคัดค้านคาให้การ คาให้การเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ดี เมื่อศาลมีคาสั่งรับคาฟูองแล้ว หากตุลาการเจ้าของสานวนเห็นว่าสามารถจะวินิจฉัย ชี้ขาดคดีดังกล่าวได้จากข้อเท็จจริงในคาฟูองนั้น โดยไม่ต้องดาเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงอีก หรือเห็นว่า 12 พรรณรัตน์ โสธรประภากร, พัชรณัฏฐ์ สังข์ประไพ, กิจบดี ก้องเบญจภุช, “ประวัติศาลและระบบการพิจารณาคดี ของไทย,” วารสารสังคมศาสตร์ นิติรัฐศาสตร์ 5, 1 (มกราคม – มิถุนายน 2564): 2.

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3