ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

42 2.1.3.3 ถ้าผู้ฟูองคดีไม่ประสงค์จะทาคาคัดค้านคาให้การ แต่ประสงค์จะให้ศาลพิจารณา พิพากษาคดีต่อไป ให้ผู้ฟูองคดีแจ้งเป็นหนังสือให้ศาลทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับสาเนาคาให้การ หรือภายในระยะเวลาที่ศาลกาหนด ตามข้อ 47 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาล ปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 แต่ถ้าผู้ฟูองคดีไม่ดาเนินการภายในกาหนด ระยะเวลาดังกล่าว ศาลจะสั่งจาหน่ายคดีออกจากสารบบความก็ได้ ตามข้อ 47 วรรคสี่ แห่งระเบียบของ ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 2.1.3.4 คาคัดค้านคาให้การของผู้ฟูองคดีให้มีได้เฉพาะในประเด็นที่ได้ยกขึ้นกล่าวใน คาฟูอง คาให้การ หรือที่ศาลกาหนด และถ้าผู้ฟูองคดีทาคาคัดค้านคาให้การโดยมีประเด็นหรือคาขอเพิ่มขึ้น ใหม่ต่างจากคาฟูอง คาให้การ หรือที่ศาลกาหนด ให้ศาลสั่งไม่รับประเด็นหรือคาขอใหม่นั้นไว้พิจารณา ตามข้อ 48 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 2.1.4 คาให้การเพิ่มเติม ให้ศาลส่งสาเนาคาคัดค้านคาให้การของผู้ฟูองคดีให้ผู้ถูกฟูองคดี เพื่อให้ผู้ถูกฟูองคดียื่น คาให้การเพิ่มเติมต่อศาล พร้อมสาเนา 1 ชุด หรือตามจานวนที่ศาลกาหนด ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับ สาเนาคาคัดค้านคาให้การ หรือภายในระยะเวลาที่ศาลกาหนด เมื่อศาลได้รับคาให้การเพิ่มเติมจาก ผู้ถูกฟูอง คดีแล้ว ให้ส่งสาเนาคาให้การเพิ่มเติมนั้นให้แก่ผู้ฟูองคดี ตามข้อ 49 วรรคหนึ่ง แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 2.2 การแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมของศาล การแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมของศาลได้กาหนดไว้ข้อ 50 – 59 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ดังนี้ 2.2.1 ศาลมีอานาจแสวงหาข้อเท็จจริงได้ตามความเหมาะสม (ข้อ 50 ) ศาลมีอานาจแสวงหา ข้อเท็จจริงได้ตามความเหมาะสม โดยศาลอาจแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานบุคคล พยานเอกสาร พยาน ผู้เชี่ยวชาญ หรือพยานหลักฐานอื่นนอกเหนือจากพยานหลักฐานของคู่กรณีที่ปรากฏในคา ฟูอง คาให้การ คาคัดค้านคาให้การ หรือคาให้การเพิ่มเติมก็ได้ 2.2.2 ศาลมีอานาจออกคาสั่งเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคาได้ (ข้อ 51) ศาลมีอานาจออกคาสั่งเรียก คู่กรณีหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคาได้ตามที่เห็นสมควร 2.2.3 กรณีที่ต้องใช้ล่าม (ข้อ 52) ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรจะรับฟังถ้อยคาของบุคคลใด และ เป็นกรณีที่ต้องใช้ล่าม ให้ศาลจัดหาล่าม โดยให้ล่ามได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับการมาให้ถ้อยคาของพยาน ผู้เชี่ยวชาญ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3