ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

48 สูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ให้แก่คู่กรณีทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน ในการนี้ให้ คู่กรณีมีสิทธิยื่นคาแถลง รวมทั้งนาพยานหลักฐานมาสืบประกอบคาแถลงดังกล่าวเพื่อยืนยันหรือหักล้าง ข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมายเพิ่มเติมต่อองค์คณะพิจารณาพิพากษาในวันนั่งพิจารณาคดีแต่จะไม่มาแถลงด้วย วาจาก็ได้ ตามมาตรา 59 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบข้อ 60 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วย วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 แต่อย่างไรก็ดี ในกรณีที่กฎหมายกาหนดระยะเวลาให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีหรือ โดยลักษณะแห่งคดีมีความจาเป็นที่ศาลจะต้องพิจารณาพิพากษาคดีเป็นการเร่งด่วนหรือเพื่อประโยชน์แก่ ส่วนรวม การส่งสรุปข้อเท็จจริงของตุลาการเจ้าของสานวนให้คู่กรณีทราบดังกล่าว จะส่งล่วงหน้าเป็นเวลา อันสมควรแต่ไม่ถึง 7 วัน ก็ได้ โดยต้องคานึงถึงการคุ้มครองสิทธิของคู่กรณีด้วย ตามมาตรา 59 วรรคสาม แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 3.4 การนั่งพิจารณาคดีจะต้องกระทาโดยเปิดเผย ตามมาตรา 60 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ข้อสั้งเกต สาหรับการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม โดยหลักแล้ว การพิจารณาคดีจะต้องกระทา โดยเปิดเผยเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดี ในคดีเรื่องใดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี หรือเพื่อคุ้มครอง ประโยชน์สาธารณะ ถ้าศาลปกครองเห็นสมควรจะห้ามมิให้มีการเปิดเผยข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแห่งคดี ซึ่งปรากฏจากคาคู่ความหรือคาแถลงของคู่กรณีหรือคาพยานหลักฐานที่ได้สืบ มาแล้ว ศาลปกครองจะมีคาสั่งตามมาตรา 60 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและ วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ก็ได้ กล่าวคือ (1) ห้ามประชาชนมิให้เข้าฟังการพิจารณาทั้งหมดหรือบางส่วน แล้วดาเนินการพิจารณาไป โดยไม่เปิดเผย หรือ (2) ห้ามมิให้ออกโฆษณาข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ต่าง ๆ เช่นว่านั้น 3.5 ในวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก หากคู่กรณีประสงค์จะยื่นคาแถลงเป็นหนังสือ ให้ยื่นต่อศาล ก่อนวันนั่งพิจารณาคดีหรืออย่างช้าที่สุดในระหว่างการนั่งพิจารณาคดี โดยคาแถลงดังกล่าวจะยกข้อเท็จจริงที่ ไม่เคยยกขึ้นอ้างไว้แล้วไม่ได้ เว้นแต่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นสาคัญในคดีซึ่งคู่กรณีผู้ยื่นสามารถพิสูจน์ได้ว่า มีเหตุจาเป็นหรือพฤติการณ์พิเศษที่ทาให้ไม่อาจเสนอต่อศาลได้ก่อนหน้านั้น แต่ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริง ดังกล่าวได้ต่อเมื่อได้เปิดโอกาสให้คู่กรณีอีกฝุายหนึ่งแสดงพยานหลักฐานเพื่อยืนยันหรือหักล้างแล้ว นอกจากนั้น คู่กรณีมีสิทธินาพยานหลักฐานมาสืบประกอบคาแถลงดังกล่าวได้ โดยให้ศาลพิจารณา สั่งอนุญาตเท่าที่เกี่ยวข้องกับคาแถลงและจาเป็นแก่คดีเท่านั้น คาสั่งดังกล่าวให้เป็นที่สุด ตามข้อ 84 วรรคหนึ่ง ถึงวรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543