ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

50 บทที่ 7 การทาคาพิพากษาหรือคาสั่ง 1. บทนา เมื่อได้มีการนั่งพิจารณาคดีโดยตุลาการองค์คณะ และได้มีการแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีเสร็จ สิ้นแล้ว ตุลาการองค์คณะก็จะดาเนินการทาคาพิพากษาหรือคาสั่งต่อไป โดยคาพิพากษาหรือคาสั่งต้องมี รายการตามที่กฎหมายระบุไว้ 2. การทาคาพิพากษาหรือคาสั่ง 2.1 การประชุมของตุลาการองค์คณะ เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีแล้ว ให้ตุลาการหัวหน้าคณะนัดประชุมปรึกษา เพื่อพิพากษาหรือมีคาสั่งในวันเดียวกันนั้นหรือวันอื่น ตามข้อ 89 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการใน ศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 สาหรับการทาคาพิพากษาหรือคาสั่งของศาล ปกครอง ถ้าจะต้องกระทาโดยตุลาการศาลปกครองหลายคน คาพิพากษาหรือคาสั่งนั้นจะต้องบังคับตาม ความเห็นของฝุายข้างมาก และในกรณีที่ตุลาการในศาลปกครองผู้ใดมีความเห็นแย้ง ให้ทาความเห็นแย้งไว้ใน คาพิพากษาหรือคาสั่งนั้น ตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 2.2 ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครอง 2.2.1 ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น ในคดีที่มีลักษณะหนึ่งลักษณะใดดังต่อไปนี้ อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นจะให้มีการวินิจฉัย ปัญหาหรือคดีใดโดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นนั้นก็ได้ (1) คดีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนเป็นจานวนมากหรือประโยชน์สาธารณะที่สาคัญ (2) คดีที่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครองที่สาคัญ (3) คดีที่อาจมีผลเป็นการกลับหรือแก้ไขแนวคาพิพากษาเดิมของศาลปกครองชั้นต้น หรือ ศาลปกครองสูงสุด (3) คดีที่มีทุนทรัพย์สูง ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นให้ประกอบด้วยตุลาการในศาลปกครอง ชั้นต้นนั้นทุกคนที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมิใช่ผู้ที่ถูกคัดค้านหรือต้องถอนตัวเพราะมีเหตุอันอาจถูกคัดค้าน แต่ต้องมี จานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นนั้น และให้อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นเป็นประธาน ที่ประชุมใหญ่ สาหรับคาวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่ให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด ตามข้อ 94 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543