ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

60 แล้วศาลได้มีคาสั่งกาหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองอย่างใด ๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวให้แก่ผู้ฟูองคดี ก่อนที่ศาลจะทาการพิพากษาคดี เช่น ศาลสั่งให้หน่วยงานทางปครองระงับการก่อสร้างอาคารไว้ก่อน เป็นต้น 8. การแสวงหาข้อเท็จจริง การแสวงหาข้อเท็จจริง แบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้ 8.1 การแสวงหาข้อเท็จจริงจากคู่กรณี แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ คาฟูอง คาให้การ คาคัดค้าน คาให้การ คาให้การเพิ่มเติม 8.2 การแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมของศาล เช่น ศาลมีอานาจออกคาสั่งเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคาได้ หรือศาลมีอานาจออกคาสั่งเรียกให้บุคคลส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานใด ๆ ให้แก่ศาลได้ เป็นต้น 9. การสรุปสานวนคดี บันทึกของตุลาการเจ้าของสานวนมีองค์ประกอบ 3 ประการ คือ 1. สรุปข้อเท็จจริงที่ได้จากคาฟูอง และเอกสารอื่น ๆ ของคู่กรณี รวมทั้งพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฏในสานวนคดี และสรุปคาขอของผู้ฟูองคดี 2. ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย 3. ความเห็นของตุลาการเจ้าของสานวนเกี่ยวกับประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยและ คาขอของผู้ฟูองคดี 10. การกาหนดวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อองค์คณะได้รับสานวนคดีจากตุลาการเจ้าของสานวนแล้ว หากเห็นว่าไม่มีกรณีที่จะต้องแสวงหา ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ให้ตุลาการหัวหน้าคณะมีคาสั่งกาหนดวันหนึ่งวันใดเป็นวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงใน คดีนั้น ซึ่งบรรดาคาฟูองเพิ่มเติม คาให้การ คาคัดค้านคาให้การ คาให้การเพิ่มเติม รวมทั้งพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่ยื่นต่อศาลหลังวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริง ไม่ให้ศาลรับไว้เป็นส่วนหนึ่งของสานวนคดี 11. การทาคาแถลงการณ์ อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นหรือประธานศาลปกครองสูงสุดมีอานาจแต่งตั้งผู้แถลงคดีปกครอง จากตุลาการศาลปกครองคนหนึ่งในศาลนั้น ที่มิใช่ตุลาการในองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีนั้น เมื่อกาหนดวันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ให้ตุลาการหัวหน้าคณะส่งสา นวนคดีให้ อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นพิจารณา หากอธิบดีศาลปกครองชั้นต้นมิได้สั่งการเป็นอย่างอื่น ให้ส่งสานวนคดีนั้น ให้ตุลาการผู้แถลงคดีเพื่อจัดทาคาแถลงการณ์โดยเร็ว ตุลาการผู้แถลงคดีมีอานาจหน้าที่ในการจัดทาสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และความเห็นของตนใน การวินิจฉัยคดีนั้นเสนอต่อองค์คณะพิจารณาพิพากษา และให้มาชี้แจงด้วยวาจาต่อองค์คณะพิจารณาพิพากษา ในวันนั่งพิจารณาคดีนั้น และให้มีสิทธิอยู่ร่วมในการพิจารณาและในการประชุมปรึกษาเพื่อพิพากษาคดีนั้นได้ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงในการวินิจฉัยคดีนั้น