ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
64 บทที่ 1 คดีที่อยู่ในเขตอานาจของศาลปกครอง 1. บทนา พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 9 บัญญัติว่า “ศาลปกครองมีอานาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคาสั่งในเรื่องดังต่อไปนี้ (1) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาการโดยไม่ชอบด้วย กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คาสั่งหรือการกระทาอื่นใดเนื่องจากกระทาโดยไม่มีอานาจหรือนอกเหนือ อานาจหน้าที่หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็น สาระสาคัญที่กาหนดไว้สาหรับการกระทานั้น หรือโดยไม่สุจริต หรือมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบั ติที่ ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จาเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร หรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ (2) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่ กฎหมายกาหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร (3) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทาละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อานาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คาสั่งทางปกครอง หรือคาสั่งอื่น หรือ จากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกาหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร (4) คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง (5) คดีที่มีกฎหมายกาหนดให้หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฟูองคดีต่อศาล เพื่อบังคับให้ บุคคลต้องกระทาหรือละเว้นกระทาอย่างหนึ่งอย่างใด (6) คดีพิพาทเกี่ยวกับเรื่องที่มีกฎหมายกาหนดให้อยู่ในเขตอานาจศาลปกครอง” ดังนั้น คดีที่อยู่ในเขตอานาจของศาลปกครองต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ 2 ประการ ดังนี้ 1. คู่กรณีในคดีปกครอง และ 2. มูลเหตุของคดีปกครอง 2. คู่กรณีในคดีปกครอง คดีพิพาทที่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลปกครอง จะต้องมีคู่กรณีอย่างน้อยฝุายใด ฝุายหนึ่งเป็น 1. หน่วยงานทางปกครองหรือ 2. เจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้น หากเป็นคดีพิพาทระหว่างเอกชนทั้ง สองฝุาย ย่อมไม่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลปกครอง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3