แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม

90 สิทธิของประชาชนไว้ในตัวบทกฎหมายพียงอย่างเดียว ย่อมไม่เพียงพอต่อการป้องกันมิให้เกิดใช้ อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้อง ในทางปฏิบัติได้จึงต้องมีการวางหลักกฎหมายเกี่ยวกับการจัดสรรอำนาจที่มี ประสิทธิภาพ และเกิดผลเป็นการถ่วงดุลการตรวจสอบยับยั้งมิให้เกิดการปฏิบัติโดยมิชอบ เมื่อพิจารณาถึงการดำเนินคดีทางอาญาโดยรัฐ ซึ่งเป็นระบบกล่าวหา จึงมีการแบ่งแยก อำนาจหน้าที่ในการสอบสวนฟ้องร้องออกจากการพิจารณาพิพากษา การปฏิบัติงานขององค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจึงควรมีการแบ่ง “หน้าที่” ให้เกิดการถ่วงดุลและตรวจสอบซึ่งกัน และกันในลักษณะของการถ่วงดุลอำนาจ (Checks and Balances) เพื่อมิให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งมี อำนาจมากจนเป็นการผูกขาดอำนาจ ซึ่งเมื่อคำนึงถึงลักษณะเฉพาะของกระบวนการยุติธรรมทาง อาญาแล้วจะพบว่า การตรวจสอบในกระบวนการเป็นไปในลักษณะของการตรวจสอบ “การควบคุม ความชอบด้วยกฎหมาย และความชอบด้วยวัตถุประสงค์” ของการปฏิบัติ และก่อให้เกิดความยากแก่ การกระทำทุจริต กล่าวคือ สิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ โดย มิได้มีลักษณะของการถ่วงดุลอำนาจ เช่น การที่กฎหมายวางหลักให้การจับจะต้องมีหมายศาล 166 ก็ เพื่อให้ศาลซึ่งเป็นองค์กรภายนอกในการสอบสวนสามารถตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายก่อนการ จับกุมโดยตำรวจซึ่งเป็นการใช้มาตรการบังคับทางอาญาที่กระทบต่อเสรีภาพของประชาชน เป็นต้น โดยจะเห็นได้ว่าในชั้นเจ้าพนักงานการแบ่งหน้าที่ของตำรวจ อัยการ และศาล มิได้มีอำนาจเท่าเทียม กัน แต่ก็สามารถแบ่งหน้าที่เพื่อการป้องกันการผูกขาดอำนาจ เกิดความเป็นภาววิสัยในการใช้อำนาจ และเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตามหลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ดีซึ่งต้อง ให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลด้วยในฐานะที่บุคคลนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งการ ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจอาจแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ 6.1.1 ลักษณะของการตรวจสอบถ่วงดุลภายในองค์กร การตรวจสอบภายใน (Internal Control) หมายถึง การตรวจสอบจากการแบ่งหน้าที่ภายใน องค์กรที่มีหน้าที่นั้นเอง เช่น ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา มีการตรวจสอบการใช้อำนาจ ตามลำดับการบังคับบัญชา โดยผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการตรวจสอบการใช้อำนาจของ ผู้ใต้บังคับบัญชาในรูปแบบของการกำกับดูแล การเข้าตรวจสอบ การมีอำนาจออกคำสั่ง เมื่อเกิดกรณี ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือชอบด้วยกฎหมายแต่ไม่เหมาะสมผู้บังคับบัญชา สามารถสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการได้ รวมทั้งยังมีอำนาจเพิกถอน แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือใช้ อำนาจแทนผู้ใต้บังคับบัญชาได้ การกำกับดูแลที่เป็นการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรภายใน ด้วยกัน เพื่อให้การใช้อำนาจนั้นชอบด้วยกฎหมาย 166 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 วรรคแรก

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3