แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม

98 ข. อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูก บังคับ (INTERNATIONAL CONVENTION FOR THE PROTECTION OF ALL PERSONS FROM ENFORCED DISAPPEARANCE) ประเทศไทยร่วมลงนามเป็นสมาชิกวันที่ 9 มกราคม พุทธศักราช 2555 ประเทศไทยจึงมีหน้าที่ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว 177 7.1 การกำหนดรูปแบบของการกระทำความผิดขึ้นใหม่ พระราชบัญญัตินี้จึงมีการกำหนดรูปแบบของการกระทำความผิดขึ้นใหม่ในลักษณะ การ กระทำความผิดเน้นที่การกระทำซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำ ไม่ใช่ลักษณะของการกระทำระหว่าง ประชาชนทั่วไปด้วยกันเอง เป็นกฎหมายเฉพาะซึ่งรวมการคุ้มครอง ปราบปราม และป้องกัน การ กระทำทรมานและการบังคับให้สูญหายซึ่งเป็น 2 ฐานความผิดที่มีความคล้ายคลึงกันในส่วนของการ เอาตัวบุคคลไว้ในอำนาจรัฐไว้ในพระราชบัญญัติฉบับเดียว 178 7.1.1 การกระทำทรมาน การกระทำโดยเจตนาก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรง ไม่ว่าทางกาย ทางจิตใจ โดยมีเจตนาพิเศษเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือคำรับสารภาพ ลงโทษผู้กระทำความผิด ขู่เข็ญ ให้กระทำ หรือเลือกปฏิบัติ จากผู้กระทำหรือบุคคลที่สาม ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกระทำทรมาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีจนถึงตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทจนถึง 1 ล้านบาท 179 ในกรณีนี้ผู้เขียนเห็นว่า กรณีมิใช่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 180 แต่ จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป เพราะการทรมานไม่จำเป็นว่าผู้ถูกทรมานจะต้องเสียอวัยวะหรือเสีย ความสามารถบางประการ การกระทำทรมานจึงองค์ประกอบความผิด 4 ประการ 177 ภาวัฒน์ สัตยานุรักษ์. (2565). บทบัญญัติทางกฎหมายเพื่อการป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย. กรุงเทพ: สถาบันพระปกเกล้า. น. 29 178 การตีความให้ดูเจตนารมณ์ของกฎหมายระหว่างประเทศ เอกสารที่เกี่ยวกับการเจรจา ระหว่างการร่างสัญญา 179 มาตรา 5 ประกอบมาตรา 35 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 180 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 200,000 บาท