แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม

156 บทที่ 13 บทบาทหน้าที่ของผู้พิพากษา การค้นหาความจริงในชั้นศาลโดยการพิจารณาคดีจะมีการเริ่มต้นด้วย การแลกเปลี่ยนคำ คู่ความกัน โดยเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องตั้งรูปคดีที่มีความชัดเจนและแน่นอนในคำฟ้อง เพื่อที่จำเลยได้รับ แล้วจะทำคำให้การเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวอ้างในคำฟ้องของโจทก์ให้ชัดแจ้งโดยหน้าที่ และมีสิทธิที่จะยก ข้อต่อสู้มาในคำให้การ จนนำมาสู่การกำหนดประเด็นข้อพิพาทที่แน่นอน จากนั้นหากไม่มีการฟ้อง แย้งหรือร้องสอด ก็จะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนมีการนำสืบพยานหลักฐานในศาล เพื่อความ กระชับรัดกุมในการสืบพยานอันเป็นการลดการเสียเวลาอันมีค่า และเพื่อเป็นการบังคับให้คู่ความต้อง เปิดเผยพยานหลักฐานของแต่ละฝ่ายให้มากที่สุด ทำให้ศาลทราบถึงภาพรวมของพยานหลักฐานที่ คู่ความแต่ละฝ่ายจะนำมาสืบ และการทราบถึงพยานหลักฐานซึ่งกันและกันของคู่ความ คดีอาญาจึงมี ขั้นตอนก่อนนำพยานหลักฐานเข้าสืบมากกว่าคดีแพ่ง เพื่อให้การพิจารณาคดีได้ผลใกล้เคียงความจริง มากที่สุด มิใช่การเอาชนะกันด้วยกลวิธีปกปิดพยานซึ่งขัดกับการร่วมกันค้นหาความจริงในการ ดำเนินคดีอาญาโดยรัฐ 13.1 บทบาทเชิงรุกในการตรวจสอบค้นหาความจริง กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้มีการวางหลักให้อำนาจศาลในการค้นหาความจริงอันเป็น บทบาทในเชิงรุกร่วมกับองค์กรอื่นไว้อยู่หลายมาตรา กล่าวคือ กฎหมายได้วางหลักไว้อย่างชัดเจนให้ “ศาลเป็นผู้สืบพยาน” ซึ่งจะสืบพยานในศาลหรือนอกศาลแล้วแต่เห็นสมควรตามลักษณะของพยาน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 229 และในระหว่างพิจารณาคดี ศาลยังมี อำนาจสืบพยานเพิ่มเติมได้อีกไม่ว่าจะเกิดจากการร้องขอของคู่ความหรือศาลเห็นสมควรเอง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 228 นอกจากนี้ กฎหมายยังวางหลักให้ศาลมี อำนาจถามโจทก์จำเลยหรือพยานคนใดก็ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 235 อีกทั้งเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จศาลก็มีอำนาจเรียกสำนวนการสอบสวนจากพนักงานอัยการมาเพื่อ ประกอบการวินิจฉัยได้ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 175 อย่างไรก็ตาม นักกฎหมายบางส่วนเห็นว่า ประเด็นที่กฎหมายในอำนาจศาลคล้ายกับว่า บทบาทในการค้นหาความจริงในเชิงรุก (Active) นั้น แท้จริงเจตนารมณ์ของกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 229 ซึ่งวางหลักให้ศาลเป็นผู้สืบพยาน น่าจะมีเจตนารมณ์เช่นเดียวกันกับ พระราชบัญญัติลักษณะพยาน ร.ศ. 113 (พ.ศ. 2437) มาตรา 37 ซึ่งวางหลักให้อำนาจศาลซักถาม พยานให้เบิกความตามประเด็นข้ออ้างจนสิ้นกระแสความ โดยในกรณีนี้คู่ความก็อาจตกลงเป็นผู้

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3