แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม

158 อย่างไรก็ตาม นักกฎหมายบางส่วนเห็นว่า การดำเนินคดีของไทยมิได้เป็นระบบการ ดำเนินคดีโดยประชาชนที่ผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องอยู่ในฐานะประชาชนด้วยกันจึงใช้การต่อสู้กันในคดีเช่น ที่เกิดในคดีแพ่ง การที่กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 229 วางหลักไว้อย่างชัดเจนว่าให้ “ศาลเป็นผู้สืบพยาน…” จึงเป็นหน้าที่ของศาลที่จะเป็นผู้ทำหน้าที่ซักถามพยานด้วยตนเอง ตาม หลักการดำเนินคดีอาญาโดยรัฐที่ค้นหาความจริงด้วยหลักตรวจสอบตามแบบของภาคพื้นทวีปยุโรป ส่วนการนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 นั้น จะต้องไม่ใช้กับกรณีที่วิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะแล้ว และ “เท่าที่พอจะ บังคับได้” คือ การจะนำกฎหมายมาใช้ต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างคดีแพ่งและคดีอาญา เช่น จะนำเรื่องการท้ากันในศาลซึ่งเป็นหลักตกลงตามกฎหมายแพ่งมาใช้มิได้ แม้จะไม่มีกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญาบัญญัติเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะก็ตาม โดยการจะนำกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เข้ามาปรับใช้นั้นต้องสอดคล้องกับหลักตรวจสอบในการค้นหาความจริงตามกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญาด้วย ดังนั้น การนำกลไกการถามค้านตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 116 (2) และมาตรา 117 ประกอบกับมาตรา 15 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจึง เป็นการพิจารณาคดีที่ปราศจากพื้นฐานทางกฎหมายเข้ามารองรับโดยสิ้นเชิง 263 อีกแนวคิดหนึ่งคือวิธีการค้นหาความจริงในระบบของไทยที่เป็นระบบผสม โดยผู้พิพากษา ชว เลิศ โสภณวัต ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้ว่า “กฎหมายวิธีพิจารณาความของไทยในส่วนที่เกี่ยวกับ พยานหลักฐานเป็นระบบผสม คือมีการนำเอาหลักการพิจารณาคดีโดยเปิดเผยต่อหน้าคู่ความตาม แบบของระบบกล่าวหามาใช้ในระบบประมวล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 36 และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 172 และมีการนำหลักการในการให้สิทธิ ในความเท่าเทียมกันของคู่ความมาใช้ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 85 ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีการนำหลักการค้นหาความจริงของศาลในระบบไต่สวนเข้ามาใช้ด้วย” นอกจากนี้ ท่านยังเห็นว่า “คำสอนที่พร่ำสอนกันมาว่าศาลไม่ควรถามพยานเพราะถ้าเป็นคดี แพ่งก็อาจทำให้คู่ความได้เปรียบเสียเปรียบกันและถ้าเป็นในคดีอาญาก็อาจเป็นผลร้ายแก่จำเลยเป็น คำกล่าวซึ่งใช้ได้แต่ในระบบกล่าวหาเท่านั้น ไม่ต้องด้วยวิธีการค้นหาความจริงในระบบของไทยที่เป็น ระบบผสม” 264 263 คณิต ณ นคร. (2564). กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพ: วิญญู ชน. น. 100-103 264 วิชัย วิวิตเสรี. (2544). ระบบไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง. วารสารยุติธรรม ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 (มีนาคม – เมษายน). น. 11

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3