แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม
167 อาชญากรหากอาชญากรมองว่า ต้นทุนคาดหมายต้องมากกว่าประโยชน์คาดหมาย จึงจะก่อให้เกิดผล ในการยับยั้ง และป้องกันการล้างแค้นซึ่งกันและกัน 277 นอกจากนี้ แนวความคิดของเบ็คคาเรียได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในภายหลังโดยกลุ่ม สำนักอาชญาวิทยากึ่งดั้งเดิม (Neo-Classical School) ซึ่งสนใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างบุคคล และสถานการณ์แห่งคดีมากขึ้น ทุกคนไม่ได้มีอิสระในการชั่งน้ำหนักความคุ้มค่าในความเจ็บปวดและ ความสุขตามทฤษฎีฮีโดนิซึม (Hedonism) เช่น เด็กนั้นรู้ว่าตนกระทำการใด แต่ไม่อาจเข้าใจอย่างชัด แจ้งถึงผลเสียที่จะตามมาในอนาคตจากการกระทำนั้น เนื่องมาจากยังขาดวิจารณญาณและ ประสบการณ์ สำนักอาชญาวิทยากึ่งดั้งเดิมจึงมิได้มองว่ามูลเหตุจูงใจ และไม่กำหนดหลัก Free Will เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดไว้อย่างตายตัว หากแต่มองว่าบุคคลแตละบุคคลย่อมมีความสามารถในการคิด และตัดสินใจได้ไม่เท่ากัน เช่น เยาวชน จึงเป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการลดหย่อนโทษให้กับเยาวชน หรือกระทั่งบุคคลวิกลจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นการให้เหตุผลเกี่ยวกับตัวบุคคลและพฤติการณ์แห่งคดี ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัจจัย เกี่ยวกับตัวผู้กระทำความผิด เช่น ระดับสติปัญญาและอายุของผู้กระทำความผิดที่มองว่า ทำให้ไม่ สามารถมีเจตจำนงอิสระในการตัดสินใจที่ดีได้ ในการพิจารณากำหนดโทษผู้กระทำความผิด ยังอยู่ ภายใต้เจตจำนงอิสระ (Free Will) เพียงแต่มีการยืดหยุ่นได้ในบางกรณี 278 ศตวรรษที่ 19 สำนักคิดทางอาชญาวิทยาปฏิฐานนิยม (Positive school) เป็นสำนักคิดที่ใช้ หลักเหตุนำมาซึ่งผลตามเจตจำนงกำหนด (Determinism) ว่าเหตุใดคนถึงเป็นอาชญากรซึ่งเป็นการ วิเคราะห์และค้นหาความจริงในทางวิทยาศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ (Scientific inquiry) สำนัก คิดปฏิฐานนิยมซึ่งมองว่าแท้จริงมนุษย์นั้นดี แต่กระทำความผิดเพราะเหตุปัจจัยอื่นไม่ใช่อยู่ที่การเลือก ตามเจตจำนงอิสระ (Free will) ส่งผลให้กระทำผิด เช่น ลักษณะทางพันธุกรรม การป่วย การควบคุม จิตใจ การเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก สังคมแวดล้อม เศรษฐกิจ ที่อยู่อาศัย ที่มาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็น มุมมองในทางชีววิทยา จิตวิทยา ศาสตร์ต่าง ๆ ที่สามารถนำมาซึ่งคำตอบได้ ทำให้เกิดกระบวนการ ยุติธรรมในเชิงฟื้นฟูที่มองผู้ทำผิดเหมือนผู้ป่วยที่ต้องรักษาและแก้ไขให้ถูกวิธี มิใช่ผู้ชั่วร้ายที่จะต้อง ลงโทษเพื่อกำราบ นักอาชญาวิทยาที่ถือว่ามีอิทธิพลต่อการพัฒนาแนวคิดในเรื่องการลงโทษในยุค ปัจจุบันคือ ซีซ่าร์ โลมโบรโซ (Cesare Lombroso) ซึ่งได้นำเอาทฤษฎีในเรื่องของวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิตในเรื่องของการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์เข้ามาประยุกต์ใช้ในการหาลักษณะทางกายภาพของ ความเป็นอาชญากรด้วยการเก็บข้อมูลลักษณะของผู้กระทำความผิด เพื่อทราบถึงการเป็นอาชญากร 277 ปกป้อง ศรีสนิท. (2563). กฎหมายอาญาชั้นสูง. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพ: วิญญูชน. น. 117 278 พงษ์ธร ธัญญสิริ. (2555). อาชญาวิทยา. กรุงเทพ: วิญญูชน. น. 26
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3