แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม

172 บทที่ 15 การลงโทษในทางอาญา “การลงโทษ” (punishment) หมายถึง การกระทำที่จะส่งผลร้าย หรือก่อให้เกิดความ เสียหายขึ้นแก่ผู้ที่ได้รับโทษ อันเป็นการตอบแทนอันเนื่องมาจากเขาได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย อาทิ การทำให้ได้รับความทุกข์ทรมานทางร่างกาย จิตใจ และการทำให้เสียไปซึ่งทรัพย์สิน ในฐานะของการ ลงโทษโดยกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ และเป็นตัวแทนโดยชอบธรรมของรัฐ ซึ่งโทษนั้นเป็นมาตรการ บังคับทางอาญา (Criminal sanction) ที่เก่าแก่ที่สุดและยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน กฎหมายอาญามาตรา 18 และมาตรา 2 วางหลักให้โทษอาญา (criminal punishment) ที่ ใช้ลงแก่ผู้กระทำความผิดมี 5 ประการ คือ 1. การลงโทษประหารชีวิต 2. การลงโทษจำคุก 3. การลงโทษกักขัง 4. การลงโทษปรับ 5. การลงโทษริบทรัพย์สิน การลงโทษด้วยการเนรเทศ การทรมาน และการประจาน จึงเป็นเพียงโทษทางอาญาที่เคย นำมาใช้กันในอดีตเท่านั้น ปัจจุบันไม่ถือเป็นโทษทางอาญา โทษทางอาญาจะต้องประกอบด้วยลักษณะที่สำคัญคือ โทษนั้นต้องเกิดขึ้นโดยผู้อื่นไม่ใช่จาก ตัวผู้กระทำความผิดกระทำต่อตนเอง ซึ่งต้องก่อให้เกิดความทุกข์แก่ผู้กระทำความผิด โดยจะต้องลง แก่ผู้กระทำความผิดโดยตรงจากการกระทำผิดนั้น ไม่ใช่ผลร้ายที่เกิดขึ้นโดยอ้อม และมิใช่การลงแก่ บุคคลอื่น ดังเช่นกฎหมายโจร 5 เส้น 286 ที่เอาผิดแก่บุคคลผู้อยู่ข้างเคียง เพื่อผลในการดำเนินคดี ซึ่ง โทษจะลงแก่บุคคลอื่นโดยทฤษฎีแล้วเป็นลักษณะของโทษทางปกครอง เป็นต้น นอกจากนี้ โทษที่จะ ลงนั้นจะมีขึ้นต่อเมื่อได้มีการกระทำผิดกฎหมายอาญา โดยได้ผ่านกระบวนการตามกฎหมาย และลง โดยผู้มีอำนาจตามกฎหมาย 287 การลงโทษจึงเป็นวิธีการที่สังคมดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด ส่วนวิธีการเพื่อความปลอดภัย (measure for safety) เช่น การกักกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 40 การห้ามเข้าเขต 286 กฎหมายลักษณะโจรห้าเส้นเป็นชาวบ้านที่อยู่ในระยะ 5 เส้นจากสถานที่เกิดการปล้น จะต้องรับผิดด้วย โดยกำหนดให้ชาวบ้านที่มีศักดินาสูงออกใช้เงินเป็นจำนวนสูงกว่าผู้มีศักดินาต่ำกว่า 287 ณัฐฐ์วัฒน์ สุทธิโยธิน. (2554). ทฤษฎีอาชญาวิทยา. กรุงเทพ: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. น. 9-10

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3