แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม
26 ใช้ประมวลกฎหมายถึงจะเข้าใจเจตนารมณ์เบื้องหลังของกฎหมาย จึงเห็นว่าควรมีโรงเรียนสอน กฎหมายที่สอดคล้องกับระบบประมวลกฎหมายด้วย 63 ในส่วนที่เกี่ยวกับเจตนารมณ์ในการยกร่างที่เกี่ยวกับการค้นหาความจริงพบว่า อดีตศาลไทย จะทำการสอบสวนเบื้องต้น (Preliminary Investigation) ด้วย ซึ่งเสียเวลาและเป็นการซ้ำซ้อนของ การทำหน้าที่กัน คณะกรรมการจึงมีมติให้การสอบสวนเบื้องต้นเป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครอง ตลอดจนพนักงานอัยการเป็นผู้ดำเนินการแทน และคณะกรรมการยังวินิจฉัยอีกว่าการฎีกาจะทำได้ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอัตราโทษ แต่ทำได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น 64 นอกจากนี้ ยังได้มีการชี้ ขาดเกี่ยวกับกฎหมายลักษณะพยานหลักฐานที่ว่า “…หลักเกณฑ์การรับฟังพยานหลักฐานด้วยการรับ เอาระบบที่เรียกว่า La preuve morale มาใช้ อันเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันอยู่ใน สยาม หลักเกณฑ์ในระบบพยานหลักฐานตามกฎหมาย (La preuve legale) ซึ่งมีการแยกระหว่าง พยานที่รับฟังได้ และพยานที่รับฟังไม่ได้นั้นเป็นอันว่าถูกตัดไปไม่นำมาใช้ ดังนั้น เท่ากับว่าระบบของ ไทยนั้นเน้นการแสดงความจริงให้ปรากฏแก่ศาล โดยอาจทำได้โดยทุกวิถีทางที่สามารถให้ความ กระจ่างแก่ศาลโดยมีข้อแม้อยู่ว่า พยานหลักฐานนั้นจะต้องมิใช่ได้มาโดยวิธีที่ต้องห้ามตามกฎหมาย ” ตามบันทึกของนาย เรเน่ กิยอง (René Guiyon) 65 แม้ว่าในระหว่างการร่างในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2464 นายครอสบี้ (Crosby) กงสุลใหญ่ ประจำสถานทูตอังกฤษในขณะนั้น ได้ทักท้วงวิธีการตามร่างดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่า “วิธีการเช่นนี้ให้ อำนาจแก่พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการไต่สวน (Preliminary investigation) ตามแบบอย่างของฝรั่งเศสและกลุ่มภาคพื้นยุโรปนั้น ยอมรับไม่ได้ใน ทัศนะของชาวอังกฤษ และแตกต่างจากระบบของไทยที่ใช้อยู่ในขณะนั้นซึ่งใช้ระบบอังกฤษ” และ “อัยการต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมากซึ่งหาได้ยากในขณะนั้น” กระทั่ งส่งประมวลของ แอฟริกาใต้และลังกาซึ่งเป็นประมวลกฎหมายที่ใช้ระบบกฎหมายอังกฤษมาให้ใช้เป็นแบบอย่างในการ ร่าง แม้กระนั้น คณะกรรมการยกร่างยังคงเห็นว่าควรใช้ระบบกฎหมายของกลุ่มภาคพื้นยุโรปมากกว่า ของอังกฤษ โดยต่อมาคณะกรรมการยกร่างได้ชำระประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเสียใหม่ โดย คณะกรรมการยกร่างบันทึกว่า ได้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแห่งแอฟริกาใต้ 63 แสวง บุญเฉลิมวิภาส. (2552). ประวัติศาสตร์กฎหมายไทย. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพ: วิญญู ชน. น. 203 64 ชาญชัย แสวงศักดิ์ และวรรณชัย บุญบำรุง. (2543). สาระน่ารู้เกี่ยวกับการจัดทำประมวล กฎหมายของต่างประเทศและของไทย. กรุงเทพ: นิติธรรม. น. 158 65 แสวง บุญเฉลิมวิภาส. (2552). ประวัติศาสตร์กฎหมายไทย. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพ: วิญญู ชน. น. 241
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3