แนวคิดและหลักการสำคัญในกระบวนการยุติธรรม
80 ทั้งนี้ การควบคุมตัวเพื่อเป็นประกันการบังคับโทษนั้นเป็นเพียงจุดมุ่งหมายรอง 148 เพราะ การบังคับโทษตามคำพิพากษาอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ แม้ว่าจำเลยจะกระทำความผิด เช่น กรณีศาล พิพากษาให้รอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษ เป็นต้น การควบคุมตัวระหว่างคดีจึงต้องมีเหตุมาจากกรณีที่รัฐมีความจำเป็นในการควบคุมหรือขัง ผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้ในระหว่างการดำเนินคดีของเจ้าพนักงาน ซึ่งหากไม่มีการเอาตัวบุคคลไว้ใน อำนาจรัฐดังกล่าวในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลแล้ว หรือการดำเนินคดีของเจ้าพนักงานหรือการ พิจารณาคดีของศาล ย่อมจะไม่อาจกระทำได้เท่านั้น ดังนั้น คำว่ามีความจำเป็นในที่นี้จึงหมายถึง เมื่อ มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้นั้นจะหลบหนี หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้นั้นจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือ มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้นั้นจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 86 ประกอบ บทบัญญัติแห่งมาตรา 83 นั่นเอง ซึ่งในอดีตระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2538 ข้อ 3 ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบเดิมในเรื่องเกี่ยวกับหลักการในการจำกัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลในข้อ 22 วรรคหนึ่ง เคยได้วางหลักว่า กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานอกจากจะเป็นกฎหมายที่กำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐใน การรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว ยังเป็นกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอีกด้วย ดังนั้น การกระทำของรัฐที่เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอาตัวบุคคลไว้ในอำนาจรัฐจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อกรณีมีความจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เท่านั้น เหตุนี้การออกหมายจับหรือจับผู้ต้องหาหรือจำเลยก็ดี การควบคุมหรือการขังผู้ต้องหาหรือจำเลยก็ดี ตามปกติจะต้องพิจารณาว่าเป็นกรณีที่น่าเชื่อว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับ พยานหลักฐานหรือไม่ด้วย หากกรณีคดีมีมูลว่าการกระทำของผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นความผิดและ เป็นที่น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือกรณีคดีมีมูล ว่าการกระทำของผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นความผิดและมีเหตุอื่นที่จำเป็นและสมควร เช่น ผู้ต้องหา หรือจำเลยอาจจะก่ออันตรายโดยไปกระทำความผิดซ้ำแล้วกรณีจึงจะมีความจำเป็นที่จะต้องออก หมายจับหรือจับ ควบคุมหรือขังผู้ต้องหาหรือจำเลยเพื่อดำเนินคดีต่อไป จึงฟังได้ว่าเหตุจำเป็นอื่นมี ตัวอย่างเช่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำนั้น เป็นต้น ดังนั้น การเรียกและการจับหาใช่เหตุที่ก่อให้เกิดอำนาจควบคุมตัวระหว่างคดีแก่เจ้า พนักงานหรือศาล แล้วแต่กรณี โดยอัตโนมัติไม่ แต่การควบคุมตัวระหว่างคดีจะต้องเกิดจากความ จำเป็นในแง่ที่ว่าหากไม่ควบคุมหรือขังผู้ต้องหาไว้ในระหว่างการดำเนินคดีของเจ้าพนักงานหรือหากไม่ 148 คณิต ณ นคร. (2549). กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา. พิมพ์ครั้งที่ 7 , กรุงเทพ : วิญญู ชน. หน้า 343.
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3