100000167

๑๒๖ ข้อ 9. การรายงานความเสียหายในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งทาให้เกิดความ เสียหายแก่หน่วยงานของรัฐอีกแห่งหนึ่ง ข้อ ๙ “ถ้าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งทําให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐอีก แห่งหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายแจ้งต่อผู้บังคับบัญชา และให้มีการรายงานตามลําดับชั้น จนถึงหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัด เว้นแต่ (๑) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นรัฐมนตรี ให้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรี (๒) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ แห่งใด ให้แจ้งต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐแห่งนั้น (๓) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นผู้ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใด ให้แจ้งต่อ กระทรวงการคลัง (๔) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นผู้ซึ่งไม่มีผู้บังคับบัญชาและมิใช่ผู้ปฏิบัติงานใน ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาหรือหน่วยงานของรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้แจ้งต่อผู้มีอํานาจกํากับดูแล ผู้แต่งตั้งตน หรือ ผู้ซึ่งสั่งให้ตนปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ” ข้อความรู้เพิ่มเติม ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของ เจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ ข้อ 9 หมายความว่า เมื่อเกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ โดยความเสียหายที่ เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งทําให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของ รัฐอีกแห่งหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาระดับต้นของหน่วยงานของรัฐที่ ตนสังกัด และให้มีการรายงานตามลําดับชั้นจนถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดซึ่งก็คือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ที่ตนสังกัด ตัวอย่าง นายสมชายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรม ก. ขับรถยนต์ไปราชการและชนกับรถยนต์ของ กรม ข. นายสมชายต้องแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาระดับต้นของกรม ก. และให้มีการรายงานตามลําดับชั้นจนถึง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดซึ่งก็คือหัวหน้าหน่วยงานของกรม ก. อย่างไรก็ดี ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทาง ละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ ข้อ 9 มีข้อยกเว้น 4 ประการ คือ (๑) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นรัฐมนตรี ให้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรี เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกระทําละเมิดต่อกระทรวงมหาดไทย ให้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรี เป็นต้น แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั้นจะพ้นจากตําแหน่งไปแล้วก็ตาม (๒) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ แห่งใด ให้แจ้งต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐแห่งนั้น เช่น นาย ก. เป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน แต่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการทําหน้าที่ปฏิบัติงานในกระทรวงยุติธรรม แล้วนาย ก. ได้ทําละเมิดต่อ กระทรวงยุติธรรม ให้แจ้งต่อหัวหน้ากระทรวงยุติธรรม เป็นต้น (๓) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นผู้ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใด ให้แจ้งต่อ กระทรวงการคลัง เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใดกระทําละเมิดต่อ กระทรวงแรงงาน ให้แจ้งต่อกระทรวงการคลัง เป็นต้น (๔) ถ้าเจ้าหน้าที่ผู้ทําให้เกิดความเสียหายเป็นผู้ซึ่งไม่มีผู้บังคับบัญชาและมิใช่ผู้ปฏิบัติงานใน ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาหรือหน่วยงานของรัฐ