100000167

๑๓๐ ข้อ 15. การเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและโต้แย้งแสดงพยานหลักฐาน ข้อ ๑๕ “คณะกรรมการต้องให้โอกาสแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือผู้เสียหาย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนอย่างเพียงพอและเป็นธรรม” ข้อความรู้เพิ่มเติม บทบัญญัติของข้อ 15 ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับ ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ สอดคล้องกับบทบัญญัติของมาตรา 30 แห่ง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งบัญญัติว่า “ในกรณีที่คําสั่งทางปกครองอาจ กระทบถึงสิทธิของคู่กรณี เจ้าหน้าที่ต้องให้คู่กรณีมีโอกาสที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมี โอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน” ข้อ 16 ความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ข้อ ๑๖ “เมื่อคณะกรรมการพิจารณาเสร็จแล้วให้เสนอความเห็นไปยังผู้แต่งตั้ง ถ้าผู้แต่งตั้งขอให้ ทบทวนหรือสอบสวนเพิ่มเติม ให้คณะกรรมการรีบดําเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่ผู้แต่งตั้งกําหนด ความเห็นของคณะกรรมการต้องมีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่แจ้งชัดและต้องมีพยานหลักฐานที่ สนับสนุนประกอบด้วย ความเห็นของคณะกรรมการไม่ผูกมัดผู้แต่งตั้งหรือรัฐที่จะมีความเห็นเป็นอย่างอื่น” ข้อความรู้เพิ่มเติม ข้อ 16 วรรคหนึ่ง ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับ ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ หมายความว่า เมื่อคณะกรรมสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทาง ละเมิดได้ทําการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเสนอความเห็นไป ยังผู้แต่งตั้ง ซึ่งผู้แต่งตั้งมีอํานาจให้คณะกรรมสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดทบทวนหรือสอบสวน เพิ่มเติมภายในเวลาที่ผู้แต่งตั้งกําหนดได้ ข้อ 16 วรรคสอง ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับ ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ หมายความว่า ความเห็นของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความ รับผิดทางละเมิด ต้องมีข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่แจ้งชัด และต้องมีพยานหลักฐานที่สนับสนุน ประกอบด้วย เพื่อให้ใช้ในการประกอบการพิจารณาออกคําสั่งของผู้แต่งตั้ง ข้อ 16 วรรคท้าย ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับ ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ หมายความว่า เมื่อคณะกรรมสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทาง ละเมิดได้เสนอความเห็นไปยังผู้แต่งตั้งแล้ว เช่น เสนอว่าสมควรลงโทษปลดออก เป็นต้น ผู้แต่งตั้งจะมี ความเห็นเป็นอย่างอื่น เช่น ไม่ลงโทษปลดออกก็ได้ เป็นต้น ข้อ 17. แนวทางปฏิบัติของผู้แต่งตั้งเมื่อได้รับรายงานจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิด ทางละเมิดแล้ว (กรณีมีผู้แต่งตั้งคนเดียว) ข้อ ๑๗ “เมื่อผู้แต่งตั้งได้รับผลการพิจารณาของคณะกรรมการแล้ว ให้วินิจฉัยสั่งการว่ามีผู้รับผิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ และเป็นจํานวนเท่าใด แต่ยังมิต้องแจ้งการสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ ให้ผู้แต่งตั้งส่งสํานวนภายในเจ็ดวันนับแต่วันวินิจฉัยสั่งการให้กระทรวงการคลังเพื่อตรวจสอบ เว้นแต่เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังประกาศกําหนดว่าไม่ต้องรายงานให้กระทรวงการคลังตรวจสอบ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3