100000167

๑๓๓ ข้อ ๒๑. คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ข้อ 21 “ในการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ให้มี“คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทาง แพ่ง” เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นต่อกระทรวงการคลัง ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งประกอบด้วย อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานกรรมการ ผู้แทน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ ผู้แทนกระทรวงการคลังตามจํานวนที่จําเป็นซึ่งปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งเป็นกรรมการ คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ มอบหมายได้ ในการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งให้นําความในข้อ ๑๓ มาใช้บังคับ โดยอนุโลม” ข้อความรู้เพิ่มเติม เมื่อผู้แต่งตั้งได้ส่งสํานวนให้กระทรวงการคลังตรวจสอบแล้ว ตามข้อ 17 ของของระเบียบสํานัก นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ กระทรวงการคลังต้องแต่งตั้ง “คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง” ขึ้น เพื่อทําหน้าที่เป็น ผู้พิจารณาให้ความเห็นต่อกระทรวงการคลัง ตามข้อ 21 ของของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย หลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ ข้อ ๒๒ การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่ความเสียหายเกิดแก่เงิน ข้อ 22 “ในกรณีที่ความเสียหายเกิดแก่เงิน ให้ใช้เป็นเงินแต่เพียงอย่างเดียว” ข้อความรู้เพิ่มเติม ในกรณีที่เจ้าหน้าที่กระทําละเมิดและก่อให้เกิดความเสียหายเกิดแก่เงิน เจ้าหน้าที่ต้องชดใช้ค่า สินไหมทดแทนเป็นเงินเท่านั้น เจ้าหน้าที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นทรัพย์สินอื่นแทนมิได้ เช่น เจ้าหน้าที่กระทําละเมิดโดยการทุจริตยักยอกเงิน เจ้าหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินเท่านั้น เจ้าหน้าที่จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นทรัพย์สินอื่นแทนมิได้ คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ 186/2557 ความเสียหายจากการกระทําละเมิดของ เจ้าหน้าที่ในคดีนี้ เกิดจากการที่ทางราชการต้องใช้เงินในการซื้อสินค้าในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง จึงเป็น กรณีที่ความเสียหายเกิดแก่เงิน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ผู้กระทําละเมิดต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินเท่านั้น ตามข้อ 22 ของของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทาง ละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๓๙ จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นสินค้าแทนไม่ได้ ข้อ ๒๓ การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่ความเสียหายมิได้เกิดแก่เงิน ข้อ 23 “ในกรณีที่ความเสียหายมิได้เกิดแก่เงิน จะดําเนินการดังต่อไปนี้แทนการชําระเงินก็ได้ (๑) ชดใช้เป็นทรัพย์สินอย่างเดียวกันโดยมีสภาพคุณภาพปริมาณ และลักษณะเดียวกันกับ ทรัพย์สินที่สูญหายหรือเสียหาย และใช้งานแทนได้เช่นเดียวกับทรัพย์สินที่สูญหายหรือเสียหาย โดยทํา สัญญายินยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นทรัพย์สินดังกล่าว (๒) ซ่อมแซมหรือบูรณะทรัพย์สินที่ชํารุดเสียหายให้คงสภาพเดิม โดยทําสัญญาว่าจะจัดการให้ ทรัพย์สินคงสภาพเหมือนเดิมภายในเวลาไม่เกินหกเดือน (๓) การชดใช้เป็นทรัพย์สินหรือการซ่อมแซมหรือบูรณะทรัพย์สินที่แตกต่างไปจาก (๑) หรือ (๒) ต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อน