100000167

๑๓๙ ข้อความรู้เพิ่มเติม หลักเกฑณ์ต่าง ๆ ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยหลักเกณฑการปฏิบัติเกี่ยวกับความรับ ผิดทางละเมิดของเจาหนาที่ พ.ศ. 2539 หมวด 1. เจ้าหน้าที่กระทําละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ มีลักษณะ ทํานองกันกับ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยหลักเกณฑการปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของ เจาหนาที่ พ.ศ. 2539 หมวด 2. เจ้าหน้าที่กระทําละเมิดต่อบุคคลภายนอก บันทึกความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การพิจารณาคาขอใหชดใชคาสินไหมทดแทน อันเนื่องมาจากการกระทาละเมิด ( เรื่องเสร็จที่ 370/2544) ข อ 31 ของระเบียบสํานัก นายกรัฐมนตรีวาดวยหลักเกณฑการปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่ พ.ศ. 2539 ได กําหนดใหนําขอ 8 ถึงขอ 20 มาใชบังคับโดยอนุโลม ดังนั้น หน่วยงานของรัฐจึงต้องสงสํานวนไป ให้กระทรวงการคลังเพื่อตรวจสอบตามขอ 17 ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยหลักเกณฑการ ปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ าหน าที่ พ.ศ. 2539 ด วย แต่การส งสํานวนให กระทรวงการคลังตรวจสอบดังกลาว จะกระทําเฉพาะกรณีที่หนวยงานของรัฐเห็นสมควรใหชดใชคาสินไหม ทดแทนเทานั้น ในกรณีที่หนวยงานของรัฐมีคําสั่งไมตองชดใชคาสินไหมทดแทน เปนกรณีที่หนวยงานของ รัฐยังไมมีความเสียหายเกิดขึ้น กระทรวงการคลังจึงไมมีหนาที่ตรวจสอบสํานวนดังกลาว ข้อ ๓๒ ในกรณีที่ผู้เสียหายยื่นคาขอให้หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ข้อ 32 “ในกรณีที่ผู้เสียหายยื่นคําขอให้หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้หน่วยงาน ของรัฐที่เจ้าหน้าที่ผู้นั้นสังกัด หรือกระทรวงการคลัง ในกรณีที่เจ้าหน้าที่มิได้สังกัดหน่วยงานใด หรือ หน่วยงานของรัฐแห่งใดแห่งหนึ่ง ในกรณีที่ความเสียหายเกิดจากผลการกระทํา ของเจ้าหน้าที่หลาย หน่วยงาน รับคําขอนั้นและดําเนินการตามระเบียบนี้โดยไม่ชักช้า ในกรณีที่ผู้เสียหายยื่นคําขอผิดหน่วยงาน ให้หน่วยงานผู้รับคําขอรีบส่งเรื่องไปยังหน่วยงานของรัฐ ที่เห็นว่าเป็นหน่วยงานของรัฐที่จะต้องรับผิดชอบพิจารณาต่อไป และให้แจ้งให้ผู้ยื่นคํา ขอทราบ กรณี ดังกล่าวนี้ให้ถือว่าหน่วยงานของรัฐได้รับคําขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน นับแต่วันที่ได้รับคําขอที่ส่งมา นั้น” ข้อความรู้เพิ่มเติม ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยหลักเกณฑการปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของ เจาหนาที่ พ.ศ. 2539 ข้อ 32 วรรคหนึ่งนี้ ได้กําหนดไว้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติความรับผิดทาง ละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๑๑ ซึ่งบัญญัติว่า “ในกรณีที่ผู้เสียหายเห็นว่า หน่วยงานของรัฐ ต้องรับผิดตามมาตรา ๕ ผู้เสียหายจะยื่นคําขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน สําหรับความเสียหายที่เกิดแก่ตนก็ได้ ในการนี้หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคําขอให้ไว้เป็นหลักฐานและ พิจารณาคําขอนั้นโดยไม่ชักช้า” และพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา 5 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า “ถ้าการละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใด ให้ถือว่ากระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานของรัฐที่ต้องรับผิด...” อย่างไรก็ดี ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยหลักเกณฑการปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทาง ละเมิดของ เจาหนาที่ พ.ศ. 2539 ข้อ 32 วรรคสอง ได้กําหนดเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่ผู้เสียหายยื่นคําขอ ผิดหน่วยงาน ให้หน่วยงานผู้รับคําขอรีบส่งเรื่องไปยังหน่วยงานของรัฐที่เห็นว่าเป็นหน่วยงานของรัฐที่ จะต้องรับผิดชอบพิจารณาต่อไป และให้แจ้งให้ผู้ยื่นคําขอทราบ กรณีดังกล่าวนี้ให้ถือว่าหน่วยงานของรัฐ ได้รับคําขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน นับแต่วันที่ได้รับคําขอที่ส่งมานั้น

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3