100000167

๓๓ นี้ จึงหมายถึง การจงใจหรือประมาทเลินเล่อธรรมดาเท่านั้น มิใช่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง 3. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 6 บัญญัติว่า “ถ้าการกระทําละเมิดของเจ้าหน้าที่มิใช่การกระทําในการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดในการนั้นเป็น การเฉพาะตัว ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟูองเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง แต่จะฟูองหน่วยงานของรั ฐมิได้” ดังนั้น การกระทําละเมิดของเจาหน้าที่ต่อบุคคลภายนอกในทางส่วนตัว ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติความ รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 นี้ จึงหมายถึง การจงใจหรือประมาทเลินเล่อธรรมดาเท่านั้น มิใช่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง 4. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 8 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของ เจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทาละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแก่ หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทาการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง” ดังนั้น ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้กระทําละเมิดต่อบุคคลภายนอกในการปฏิบัติหน้าที่ อันทําให้หน่วยงานของรัฐ ต้องรับผิดต่อผู้เสียหาย ในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ของตนได้กระทําในการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 เมื่อหน่วยงานของรัฐได้ชดใช้ค่า สินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายไปแล้ว หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทําละเมิดชดใช้ค่าสินไหม ทดแทนดังกล่าวคืนแก่หน่วยงานของรัฐได้ เฉพาะในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้กระทําละเมิดด้วยความจงใจหรือ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเท่านั้น 5. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 8 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของ เจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทาละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวแก่ หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทาการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง” และพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 10 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทําละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ผู้นั้นอยู่ใน สังกัดหรือไม่ ถ้าเป็นการกระทําในการปฏิบัติหน้าที่ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ให้นํา บทบัญญัติมาตรา ๘ มาใช้บังคับโดยอนุโลม...” ดังนั้น ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้กระทําละเมิดต่อหน่วยงาน ของรัฐในการปฏิบัติหน้าที่ หน่วยงานของรัฐจะมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทําละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่หน่วยงานของรัฐได้ เฉพาะในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้กระทําละเมิดด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่าง ร้ายแรงเท่านั้น 6. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 10 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทาละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ผู้นั้น อยู่ในสังกัดหรือไม่... ถ้ามิใช่การกระทาในการปฏิบัติหน้าที่ ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์” ดังนั้น การกระทําละเมิดของเจาหน้าที่ต่อ หน่วยงานของรัฐ ในทางส่วนตัว ตาม มาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 นี้ จึงหมายถึง การจงใจหรือประมาทเลินเล่อธรรมดาเท่านั้น มิใช่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3