100000167

๓๖ 4. เป็นเหตุให้บุคคลอื่นไดรับความเสียหายแกชีวิต หรือร่างกาย หรืออนามัย หรือเสรีภาพ หรือ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด หากบุคคลมิได้กระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ แม้จะเกิดผลคือเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได รับความเสียหายแกชีวิต หรือร่างกาย หรืออนามัย หรือเสรีภาพ หรือทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ย่อมไม่เป็นการกระทําละเมิด ๘ หากบุคคลใดกระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ แต่ไม่เกิดผลคือเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได รับความเสียหายแกชีวิต หรือร่างกาย หรืออนามัย หรือเสรีภาพ หรือทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ก็ย่อมไม่เป็นการกระทําละเมิด เช่น นาย ก. จงใจจะยิงนาย ข. แต่ไม่โดนนาย ข. ดังนี้ นาย ก. มิได้กระทํา ละเมิดต่อนาย ข. แต่ก็อาจต้องรับผิดทางอาญาซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ๙ ดังนั้น การกระทําละเมิด จึงหมายถึง การที่บุคคลได้กระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ และก่อให้เกิดผลคือเป็นเหตุให้บุคคลอื่นไดรับความเสียหายแกชีวิต หรือร่างกาย หรืออนามัย หรือเสรีภาพ หรือทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ (1) ความเสียหายแกชีวิต หมายถึง การกระทําให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย เช่น นาย ก. ฆ่านาย ข. ตาย เป็นต้น คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2518 ค่าเสียหายเพราะละเมิดทําให้บุตรของโจทก์ ตาย ต้องเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 จะเรียกร้องค่าชอกช้ําระกําใจไม่ได้ (2) ความเสียหายแกร่างกาย หมายถึง การกระทําให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บทางด้าน ร่างกาย เช่น นาย ก. เอาเอามีดฟันแขนนาย ข. จนเป็นแผลหรือแขนขาด เป็นต้น คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 1921/2520 จําเลยขับรถประจําทางโดยประมาทเลินเล่อ ทําให้โจทก์ตกจากรถ โจทก์ต้องทุพพลภาพตลอดชีวิต ถูกทรมานทั้งกายและจิตใจ ไม่สามารถประกอบ อาชีพได้ตามปกติ จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ (3) ความเสียหายแกอนามัย หมายถึง การกระทําให้บุคคลอื่นเสื่อมสุขภาพทางด้าน ร่างกายหรือจิตใจ ๑๐ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 3407/2535 จําเลยตอกเสาเข็มปลูกสร้างอาคารโรงแรม 16 ชั้น ทําให้โจทก์ทนทุกขเวทนาแสนสาหัส นอนไม่หลับเพราะหนวกหู ฝุุนละอองจากการก่อสร้างทําให้ บ้านเรือนสกปรก บ้านสั่นสะเทือน จึงเป็นความเสียหายต่ออนามัยรวมทั้งสิทธิส่วนตัวที่จะมีความเป็นอยู่ อย่างสงบสุขทั้งร่างกายและจิตใจ โจทก์จึงมีสิทธิได้รับชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 4571/2556 จําเลยถืออาวุธปืนติดตัวออกมาบริเวณถนน สาธารณะหลังจากมีปากเสียงกับโจทก์ และจําเลยได้พูดขู่เข็ญโจทก์ว่า “มึงอยากตายหรือ” การกระทํา ดังกล่าวนับว่าเป็นการกระทําโดยจงใจทําให้โจทก์เสียหาย เป็นการทําละเมิดต่อโจทก์แล้ว ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แม้ว่าจําเลยจะมิได้ยิงปืนก็ตาม แต่การที่จําเลยใช้อาวุธปืนข่มขู่ ๘ ชาญชัย แสวงศักดิ์, คาอธิบายกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ , พิมพ์ครั้งที่ 11 ( กรุงเทพมหานคร: วิญญูชน, 2563 ) , หน้า 33 . ๙ รังสรรค์ แสงสุข, ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วย ละเมิด จัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้ , (กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคําแหง, 2548 ) , หน้า 11. ๑๐ วารี นาสกุล, ละเมิด จัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้ , พิมพ์ครั้งที่ 4 (กรุงเทพมหานคร: บริษัท กรุงสยาม พับบิชชิ่ง จํากัด, 2559 ) , หน้า 125.

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3