การศึกษาอิสระ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
15 (2) การปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบหรือนโยบายของมหาวิทยาลัย หรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวัง รักษาประโยชน์ ของมหาวิทยาลัย อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่มหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง (3) การรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่มหาวิทยาลัย อย่างร้ายแรง (4) การกลั่นแกล้ง การดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ ข่มเหงผู้ร่วมงาน นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือประชาชนอย่างร้ายแรง (5) การกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษ สำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือกระทำการอื่นใด อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง (6) ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เป็นเหตุให้เสียหายแก่ มหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง (7) ล่วงละ เมิดทางเพศ ประพฤติชู้สาวหรือกระทำอนาจารกับนักศึกษา อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ซึ่งมิใช่คู่สมรส (8) นำผลงานทางวิชาการของผู้อื่นมาเป็นผลงานของตนโดยมิชอบ (9) การกระทำอื่น ใดที่มหาวิทยาลัยประกาศกำหนดว่า เป็นการกระท ำ ผิดวินัยร้ายแรง นอกจากนี้ กรณีที่ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ว่าด้วยวินัยและการดำเนินการทางวินัยของพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2559 และ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2553 ที่กำหนดไว้แตกต่าง จากประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ เกี่ยวกับวินัย การรักษาวินัย การดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ของพนักงาน มหาวิทยาลัยและลูกจ้างของมหาวิทยาลัย ฉบับลงวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ของมหาวิทยาลัย ทักษิณ มี 5 กรณีที่ได้กำหนดลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้ (1) เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากนักศึกษาหรือ ผู้รับบริการเพื่อกระทำหรือไม่กระทำการใดโดยมิชอบ (2) แก้ ไขผลการ เรียนหรือผลการสอบของนักศึกษา โดยมิชอบ หรือตน มีหน้าที่ออกข้อสอบ แล้วเปิดเผยข้อสอบโดยมิชอบ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3