การศึกษาอิสระ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

55 อารัมภบทของอนุสัญญาฉบับนี้ได้กล่าวย้ำหลักกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องสัญชาติว่า บุคคลทุกคนจะต้องมีสัญชาติและควรมีสัญชาติเดียวเท่านั้น เป้าหมายที่สำคัญก็คือการขจัดการ ที่บุคคลมีสัญชาติตั้งแต่หนึ่งสัญชาติขึ้นไปและขจัดกรณีของบุคคลไร้สัญชาติ ดังนั้นปัญหาต่าง ๆ เรื่อง การขัดกันของกฎหมายสัญชาติจึงถูกหยิบยกขึ้นมาและแก้ไขในอนุสัญญาฉบับนี้ มาตรา 5 ของอนุสัญญาฉบับนี้เป็นมาตราที่สำคัญและปรากฏอยู่ในหลักการทั่วไป หลักการ ดังกล่าวคือ หากมีการขัดกันเกี่ยวกับสัญชาติของบุคคล ในทัศนะของรัฐที่สามให้ถือเอาสัญชาติของรัฐ ที่บุคคลนั้นมีถิ่นที่อยู่เป็นปกติและเป็นแหล่งสำคัญ (Habitually and Principle Resident) หรือ ถือเอาข้อเท็จจริงที่แสดงความใกล้ชิดที่สุดของบุคคลต่อรัฐนั้น ๆ (Work most closely connected) กรณีการสละสัญชาติและได้รับอนุญาตให้สละสัญชาติ (Expatriation Permits) มีหลักการ ที่สำคัญ คือ หากบุคคลได้รับอนุญาตให้สละสัญชาติ รัฐที่อนุญาตนั้นไม่ควรจะบัญญัติกฎหมาย ให้บุคคลนั้นขาดจากสัญชาติเดิมทันที เว้นแต่ว่าบุคคลนั้นจะมีสัญชาติอื่นอยู่แล้ว หรือรอจนกระทั่ง ได้รับสัญชาติอื่นก่อน กรณีหญิงมีสามีก็อาจทำให้เกิดการขัดกันแห่งกฎหมายสัญชาติได้ และอาจส่งผลทั้งทางบวก และทางลบต่อหญิงนั้น อนุสัญญาฉบับนี้จึงพยายามที่จะหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดการได้สัญชาติ เกินกว่าหนึ่งสัญชาติและไม่ให้เกิดการไร้สัญชาติ กล่าวคือ ถ้ากฎหมายสัญชาติของภริยากำหนดให้ ภริยาต้องเสียสัญชาติเมื่อสมรสกับคนต่างด้าว มาตรา 8 แห่งอนุสัญญาฉบับนี้ก็ได้กำหนดให้ผลของ การเสียสัญชาตินั้นมีเงื่อนไขคือ หญิงนั้นจะเสียสัญชาติต่อเมื่อได้สัญชาติของสามีแล้ว การที่กฎหมาย กำหนดเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันการไร้สัญชาติ ถ้ากฎหมายสัญชาติของภริยากำหนดให้ภริยาต้องเสียสัญชาติเมื่อหญิงนั้นได้ขอถือสัญชาติ สามีขณะที่สมรสกันอยู่ การที่ภริยาต้องเสียสัญชาตินั้น มาตรา 9 แห่งอนุสัญญาฉบับนี้ได้กำหนดให้ผล ของการเสียสัญชาติมีเงื่อนไข กล่าวคือ หญิงนั้นจะเสียสัญชาติต่อเมื่อได้รับสัญชาติใหม่ตามสามีแล้ว และหากสามีแปลงสัญชาติระหว่างสมรสก็จะไม่กระทบถึงสัญชาติของภริยา โดยปกติหญิงซึ่งเสียสัญชาติไปเนื่องจากการสมรสจะไม่สามารถได้กลับคืนสัญชาติเดิม แม้ภายหลังจะขาดจากการสมรส เว้นเสียแต่จะขอกลับคืนสู่สัญชาติเดิมตามกฎหมายของประเทศนั้น แต่ถ้ากฎหมายกำหนดให้หญิงนั้นสามารถกลับคืนสู่สัญชาติเดิมได้ หญิงนั้นก็ย่อมเสียสัญชาติที่ได้มา จากการสมรส การที่กฎหมายบัญญัติเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการไร้สัญชาติ และการมีหลายสัญชาติ กรณีสัญชาติของเด็ก อนุสัญญาฉบับนี้ได้กล่าวถึงสัญชาติของเด็กในหลายกรณีด้วยกัน เด็กที่เกิดจากบุคคลที่ได้รับความคุ้มกันทางการทูต (Diplomatic Immunities) จะไม่ได้รับสัญชาติ ตามหลักดินแดนโดยอัตโนมัติ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3