การศึกษาอิสระ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

74 กรณี ด้านบริการทางการแพทย์ (PART II. MEDICAL CARE) ข้อ 7 สมาชิกแต่ละรายซึ่งใช้บังคับในส่วนนี้ของอนุสัญญานี้ จะต้องประกันให้บุคคล ที่ได้รับความคุ้มครองในการให้ผลประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพที่จาเป็นต้องได้รับการดูแล ทางการแพทย์ในลักษณะการป้องกันหรือรักษาตามมาตราต่อไปนี้ของส่วนนี้ ข้อ 9 บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองประกอบด้วย (ก) ประเภทของลูกจ้างที่กาหนดซึ่งมีสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบ ของพนักงาน ทุกคน รวมทั้งภรรยาและลูกๆ ของพวกเขาด้วยหรือ (ข) ประเภทของประชากรที่ใช้งานทางเศรษฐกิจตามที่กาหนดซึ่งมีสัดส่วนไม่น้อย กว่าร้อยละ 20 ของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด รวมทั้งภรรยาและลูกๆ ของพวกเขาด้วย หรือ (ค) ประเภทของผู้อยู่อาศัยตามที่กาหนดซึ่งมีสัดส่วนไม่ต่ากว่าร้อยละ 50 ของผู้อยู่ อาศัยทั้งหมด หรือ (ง) ในกรณีที่การประกาศตามข้อ 3 มีผลใช้บังคับ ให้พนักงานประเภทที่กาหนดให้มี จานวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของพนักงานทั้งหมดในสถานประกอบการอุตสาหกรรมที่มี พนักงานตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป รวมทั้งภรรยาและบุตรด้วย ข้อ 10 (1) ผลประโยชน์ต้องรวมถึงอย่างน้อย (ก) กรณีมีโรคภัยไข้เจ็บ (i) การดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพทั่วไป รวมถึงการเยี่ยมภูมิลาเนา (ii) การดูแลเฉพาะทางที่โรงพยาบาลสาหรับผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก และการ ดูแลเฉพาะทางที่อาจมีนอกโรงพยาบาล (iii) เวชภัณฑ์ที่จาเป็นตามที่แพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพกาหนด และ (iv) การรักษาในโรงพยาบาลในกรณีที่จาเป็น PART III. SICKNESS BENEFIT (ผลประโยชน์การเจ็บป่วย) ข้อ 13 สมาชิกแต่ละรายซึ่งใช้บังคับในส่วนนี้ของอนุสัญญานี้ จะต้องประกันให้แก่ บุคคลที่ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขการเจ็บป่วยตามมาตราต่อไปนี้ของส่วนนี้ ข้อ 14 กรณีฉุกเฉินที่ครอบคลุมต้องรวมถึงการไร้ความสามารถสาหรับงานที่เกิดจาก สภาพผิดปกติและเกี่ยวข้องกับการระงับรายได้ตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายหรือข้อบังคับของ ประเทศ ข้อ 15 บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองประกอบด้วย (ก) ประเภทของลูกจ้างที่กาหนดซึ่งมีสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบ ของ พนักงานทุกคน หรือ (ข) ชนชั้นที่กาหนดไว้ของประชากรที่ใช้งานทางเศรษฐกิจซึ่งมีสัดส่วนไม่น้อย กว่าร้อยละ 20 ของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด หรือ (c) ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดที่มีเงินช่วยเหลือในช่วงเวลาฉุกเฉินไม่เกินขีดจากัดที่ กาหนดไว้ในลักษณะที่จะปฏิบัติตามข้อกาหนดของข้อ 67

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3