การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

41 ประกอบอาชีพ ต้องไม่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือก้าวก่ายการจัดการศึกษาของสถาบันการศึกษา และ มาตรา 50 (6) กำหนดหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในการเคารพสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการ ใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม ( รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย , 2560) 2.6.2 การคุ้มครองสิทธิเด็ก สิทธิเด็ก เป็นสิทธิสากล (Universal Right) เป็นสิทธิเด็ดขาดที่ต้องได้รับการรับรองคุ้มครองตาม อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on The Rights of The Child : CRC) ซึ่งมีความเป็นมาจาก สิทธิ พลเมือง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่กำหนดไว้ในปฏิญญาเจนีวา ในปี พ.ศ. 2466 และได้รับ การทบทวนเพิ่มเติมในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเมื่อปี พ.ศ. 2491 และสมัชชาใหญ่องค์การ สหประชาชาติ ได้ลงมติเป็นเอกฉัน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2502 ให้มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมายเพื่อการ พิทักษ์สิทธิเด็กบนพื้นฐานของกฎหมายที่ยอมรับกันโดยทัดเทียมกัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 ประเทศโปแลนด์ ได้เสนอให้มีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กขึ้นก่อนปีเด็กสากล พ.ศ. 2522 อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ได้ผ่านการ พิจารณาของคณะทำงานองค์การสหประชาชาติ และได้รับรองจากประเทศต่าง ๆ ในการประชุมสมัชชาใหญ่ สหประชาชาติในเดือนพฤศจิกายน 2532 ซึ่งอนุสัญญาฉบับนี้มีทั้งหมด 54 ข้อ โดยมีหลักทั่วไปเป็นการ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพในส่วนบุคคล การแสดงความเห็น ศาสนา วัฒนธรรม ความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย เดียวกัน มุ่งคุ้มครองการถูกละเมิดสิทธิเหนือร่างกาย ชีวิต และเสรีภาพ ให้มีการเยียวยา ฟื้นฟู เด็กที่ถูกกระทำ ละเมิดให้กลับคืนสู่สภาพปกติ การคุ้มครองเด็กให้ได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการของ เด็กให้ได้รับการดูแลด้านสุขภาพและได้รับการประกันสังคม การศึกษาเล่าเรียนเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ มีมนุษย สัมพันธ์อันดี มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสภาพแวดล้อม การคุ้มครองสิทธิทางแพ่งให้ได้รับสิทธิใน การเป็นพลเมืองของรัฐ การคุ้มครองสิทธิการกระทำความผิดทางอาญาให้ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างไปจาก ผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ และหลักประกันมิให้เด็กต้องรับโทษตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต รวมทั้งการคุ้มครอง เด็กด้อยโอกาสให้ได้รับการดูแลและอุปการะเลี้ยงดูเท่าเทียมเด็กทั่วไป (สมพงษ์ จิตระดับ & อัญญมณี บุญซื่อ, 2551) การคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของเด็กและเยาวชน ตาม พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 4 ได้ บัญญัติว่า “เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุเกินกว่าอายุที่กำหนดไว้ตามมาตรา 73 แห่งประมวลกฎหมาย อาญา แต่ยังไม่เกินสิบห้าปีบริบูรณ์ และ “เยาวชน” หมายความว่า บุคคลอายุเกินสิบห้าปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง สิบแปดปีบริบูรณ์ กรณีคดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิด ให้ถืออายุเด็กหรือเยาวชนใน วันที่การกระทำความผิดเกิดขึ้น (มาตรา 5) และให้ศาลเยาวชนและครอบครัวมีอำนาจพิจารณาพิพากษา คดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิด (มาตรา 10 (1)) (ส่วนส่งเสริมและวิชาการศาลเยาวชนและ ครอบครัวกลาง, 2560)

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3