การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

53 บทที่ 4 ผลกำรวิจัย กำรวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิ เครำะห์ ได้ ใช้ข้อมูลจำกกำรทบทวนวรรณกรรม กำรสัมภำษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) โดยนำผลกำรวิเครำะห์ไปสู่กำรปรับปรุงแก้ไขและ เพิ่มเติม เพื่อศึกษำสภำพปัญหำผลกระทบต่อธุรกิจกำรท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อควบคุมสิ่งปลูกสร้ำง ปัญหำขยะมูลฝอยที่ส่งผลต่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและคนในชุมชน และกำรปฏิบัติหน้ำที่ของ หน่วยงำนที่รับผิดชอบ เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยำกรธรรมชำติของธุรกิจกำรท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้กำหนดประเด็นในกำรวิเครำะห์ ดังนี้ 4.1 กำรควบคุมรำยงำนกำรประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมสิ่งปลูกสร้ำงประเภทโรงแรม 4.2 กำรควบคุมสิ่งปลูกสร้ำงในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวของหน่วยงำนภำครัฐ 4.3 ขยะและสิ่งปฏิกูลที่ส่งผลต่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและคนในชุมชน 4.1 กำรควบคุมรำยงำนกำรประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมสิ่งปลูกสร้ำงประเภทโรงแรม ปัจจุบันธุรกิจกำรท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีรูปแบบกำรให้บริกำรที่พักหลำกหลำย และขยำยตัวอย่ำง รวดเร็ว เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ บังกะโล เกสท์เฮำท์ รีสอร์ท โฮสเทล และให้หมำยควำมรวมถึง โรงเรือน อำคำร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้ำงอย่ำงอื่นที่เจ้ำของนำมำดัดแปลงสำหรับใช้เป็นที่รองรั บพัก อำศัยเพื่อหำผลประโยชน์ด้วยเหล่ำนี้เรียกว่ำสิ่งปลูกสร้ำง ที่ผู้ประกอบธุรกิจและเจ้ำของอำคำรได้ สร้ำงขึ้นบนพื้นที่เกำะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ด้วยเหตุที่ชื่อว่ำเป็น มัลดีฟส์แห่งประเทศไทย จึงเป็นที่ สนใจและเป็นจุดมุ่งหมำยของนักท่องเที่ยว ประกอบกับทรัพยำกรธรรมชำติที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ทั้ง ทะเล ภูเขำ น้ำตก ด้ำนศิลปะวัฒนธรรม และวิถีชำวบ้ำน กิจกรรมทำงน้ำที่น่ำสนใจ ทำให้เกำะหลีเป๊ะ กลำยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในบรรดำแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั้งหมดของจังหวัดสตูล เมื่อมีนักท่องเที่ยวมำกขึ้นทำให้กำรจัดกำรบนเกำะหลีเป๊ะจึงเป็นสิ่งสำคัญตำมไปด้วย โดยเฉพำะกำร สร้ำงสิ่งปลูกสร้ำงในสถำนที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศนำมำซึ่งผลกระทบต่อทรัพยำกรธรรมชำติ เช่น ในสถำนที่ท่องเที่ยวจะมีกำรสร้ำงที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว หำกมีกำรก่อสร้ำงที่ไม่ได้ มำตรฐำนมีตึกอำคำรที่ไม่ได้ควบคุมจำนวนชั้น ควำมสูง หรือปริมำณมำกจนเกินไปไม่เหมำะสมกับ สภำพแวดล้อม เมื่อไรก็ตำมหำกสถำนที่ท่องเที่ยวมีกำรพัฒนำและ เติบ โตอย่ำงรวด เร็ว มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมำกขึ้น ทำให้ผู้ประกอบกำร สร้ำงสิ่งปลูกสร้ำงจำนวนมำกเพื่อรองรับ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3