การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

33 การที่จะทำประกันการว่างงาน มีเงื่อนไขว่าในสองปีที่ผ่านมาผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องเคยทำงานใน แบบเป็นลูกจ้างประจำมาก่อนอย่างน้อย 12 เดือน เช่น เคยทำงานเป็นพนักงานเคาน์เตอร์ หรือ งาน อื่นทั่วๆ ไป และต้องแจ้งทันทีก่อนการตกงานของการทำงานประกอบการอิสระ (ช่วงเวลาไหนก็ได้) การทำประกันการว่างงาน มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่เดือนละ 40 – 90 ยูโร ซึ่งจะมีจำนวนสูงมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรายได้ที่ได้รับด้วย ตามกฎของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผู้ที่มีงานทำจะต้องจ่ายเงินให้กับ ระบบ 4 ส่วนสำหรับการประกันสุขภาพ การพยาบาลระยะยาว เงินบำนาญและการว่างงาน การ จ่ายเงินเหล่านี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 ของรายได้รวม แต่โดยปกติแล้วนายจ้างจะเป็นผู้จ่ายเงิน ดังกล่าวครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าพนักงานจ่ายเงินเพียงร้อยละ 20 ของรายได้ ส่วนอื่นๆ ของโครงการประกันสังคม ได้แก่ การประกันอุบัติเหตุของบริษัท นายจ้างจะเป็นผู้จ่ายให้ ทั้งหมด ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายทางสังคมจะเป็นหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับรายได้ ยิ่ง รายได้มากยิ่งต้องจ่ายมากขึ้น การประกันสุขภาพ ประมาณร้อยละ 85 ของประชากรชาวเยอรมนีเป็น ผู้ประกันตนภายใต้ Gesetzliche Krankenversicherung der Arbeiter vom 15 Juni 1883 (GKV) ซึ่งเป็นระบบสุขภาพแห่งชาติของเยอรมนี ครอบคลุมเรื่องต่างๆ เช่น การพักรักษาตัวใน โรงพยาบาล การดูแลทันตกรรม การไปพบแพทย์ตามปกติ ยา แว่นตา การฉีดวัคซีน และการ เอ็กซ์เรย์ นอกจากนี้ยังชดเชยการสูญเสียรายได้เนื่องจากการเจ็บป่วย โดยผู้ที่มีรายได้มากกว่า 5,212 ยูโรต่อเดือน มีตัวเลือกว่าจะคงอยู่ในแผนประกันสุขภาพตามกฎหมายหรือทำประกันส่วนตัว โดย นายจ้างยังคงสามารถจ่ายเบี้ยประกันถึงครึ่งหนึ่งของแผนประกันส่วนตัวโดยมีข้อจำกัดบางประการ ส่วนผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถประกันภายใต้แผนตามกฎหมายได้หรืออาจทำประกันส่วนตัวโดย ไม่คำนึงถึงรายได้ก็ได้ บุคคลในแผนประกันสุขภาพตามกฎหมายและการทำประกันส่วนตัวจะได้รับ การลงทะเบียนโดยอัตโนมัติในแผนประกันการพยาบาลระยะยาว (Pflegeversicherung) ซึ่ง ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เกิดจากวัยชราหรือทุพพลภาพด้วย (Fachberatungsstelle für Prostituierte in Schleswig-Holstein, 2021) จากการศึกษาสวัสดิการขั้นพื้นฐานของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พบว่า สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมุ่งสร้างสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนภายในประเทศอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ยังมีสวัสดิการทางเลือกที่สามารถจ่ายเงินเพื่อเพิ่มสวัสดิการให้มากขึ้นกว่าเดิมได้ แต่ส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ยังคงมีอยู่แม้ไม่จะไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มก็ตาม นอกจากนั้น ในบางประเทศพบว่ามีแนวทางการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ที่เป็นนโยบายและมาตรการทางกฎหมายที่บัญญัติคุ้มครองแรงงานนอกระบบทุกกลุ่มหรือบางกลุ่มไว้ โดยตรง โดยขอยกตัวอย่างนโยบายและมาตรการให้ความคุ้มครองแรงงานนอกระบบที่ทำงานบาง เวลาของประเทศญี่ปุ่น ตามข้อ 2.6.2.2 และประเทศสิงคโปร์ ข้อ 2.6.2.3 มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3