การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
48 เครื่องมือสำคัญที่จะทำให้เกิดการออมช่วงเกษียณอายุ (รัชนี ปรีชา และ ปานแก้วตา ลัคนาวานิช, 2561) หลักเกณฑ์การเข้าเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ กำหนดไว่ว่าจะต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ นอกจากนั้นจะต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตาม กฎหมายประกันสังคม ซึ่งส่งเงินเพื่อได้รับผลประโยชน์ทดแทนยามชรา (ผู้ประกันตนตาม พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 มาตรา 40 ทางเลือกที่ 1 ไม่เข้าเงื่อนไขที่เป็นข้อห้าม) กองทุนบำเหน็จข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายอื่นๆ การจ่ายเงิน เข้ากองทุนการออมแห่งชาตินั้น จะมาจาก 2 ฝ่าย คือ สมาชิกจ่ายเงินสะสม และรัฐจ่ายเงินสมทบ (กองทุนการออมแห่งชาติ, 2563) และเมื่อสิ้นการเป็นสมาชิกภาพ ซึ่งอาจมาได้จาก 3 สาเหตุ คือ 1. มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ 2. เสียชีวิต และ 3. ลาออกจากการเป็นสมาชิกภาพก่อนอายุ 60 ปี โดย สมาชิกที่สิ้นสภาพจะได้รับเงินผลตอบแทนคืน ดังนี้ กรณีที่ 1 มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ มีสิทธิได้รับเงินสะสม ผลตอบแทนการลงทุน จากเงินสะสม เงินสมทบ และผลตอบแทนการลงทุนจากเงินสมทบ โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นการ จ่ายเงินบำนาญรายเดือน กรณีที่ 2 เสียชีวิต มีสิทธิได้รับเงินสะสม ผลตอบแทนการลงทุนจากเงินสะสม เงินสมทบ และผลตอบแทนการลงทุนจากเงินสมทบ โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินก้อนจ่ายครั้ง เดียว กรณีที่ 3 ลาออก มีสิทธิได้รับเงินสะสม และผลตอบแทนการลงทุนจากเงินสะสม โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินก้อนจ่ายครั้งเดียว (พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554, 2554) เห็นได้ว่ารัฐมุ่งสนับสนุนให้สมาชิกกองทุนการออม ออมเงินเพื่อไว้ใช้เกษียณอายุ โดยจะได้รับผลตอบแทนทั้งจากในส่วนเงินสะสม เงินสมทบ และเงินผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่ง การออมเงินดังกล่าวนั้น สามารถส่งเงินสะสมขั้นต่ำต่ำที่ 1,200 บาทต่อปี และสูงสุด 13,200 บาทต่อ ปี โดยรัฐจะสมทบให้ตามสัดส่วนช่วงลำดับอายุ (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, 2565) สามารถ แบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้ 1) สมาชิกที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีบริบูรณ์ ได้รับเงินสมทบร้อยละ 50 ของเงินที่ สะสม เข้ากองทุนในแต่ละเดือน แต่รวมกันแล้วไม่เกินปีละ 600 บาท 2) สมาชิกที่มีอายุเกิน 30 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 50 ปีบริบูรณ์ ได้รับเงินสมทบ ร้อยละ 80 ของเงินที่สะสมเข้ากองทุนในแต่ละเดือน แต่รวมกันแล้วไม่เกินปีละ 960 บาท 3) สมาชิกที่มีอายุเกิน 50 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ได้รับเงินสมทบ ร้อยละ 100 ของเงินที่สะสมเข้ากองทุนในแต่ละเดือน แต่รวมกันแล้วไม่เกินปีละ 1,200 บาท
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3