การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
37 นั้น ทั้งนี้ในกรณีที่จาเป็น โดยได้รับการอนุญาตจากอานาจศาลซึ่งต้องพิจารณาเรื่องนี้โดยพลัน รัฐภาคี แต่ละรัฐต้องดาเนินมาตรการที่จาเป็นเพื่อป้องกันและห้ามการกระทาซึ่งขัดขวางการสอบสวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องประกันว่าบุคคลที่ต้องสงสัยว่ากระทาความผิดให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูก บังคับไม่ อยู่ในตาแหน่งที่จะสามารถมีอิทธิพลเหนือความคืบหน้าในการสอบสวนโดยวิธีการกดดัน หรือการกระทาอันเป็นการข่มขู่หรือการตอบโต้ผู้ฟ้องร้องพยาน ญาติของบุคคลหายสาบสูญหรือที่ ปรึกษาทางกฎหมายหรือบุคคลที่มีส่วนร่วมในการสอบสวน ตามอนุสัญญาฉบับนี้แล้ว เหยื่อเป็นบุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหายไปและได้รับความ ทรมานจากภัยอันเป็นผลโดยตรงของการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ เหยื่อแต่ละรายมีสิทธิที่จะรู้ความ จริงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของการหายสาบสูญโดยถูกบังคับความก้าวหน้าและผลจากการสืบสวน และชะตากรรมของบุคคลที่หายสาบสูญแต่ละรัฐภาคีจะต้องดาเนินมาตรการในเรื่องนี้ รัฐภาคีแต่ละ รัฐจะต้องดาเนินมาตรการที่เหมาะสมในการค้นหาจัดหาที่พักและปล่อยตัวบุคคลที่หายสาบสูญและใน กรณีที่มีการเสียชีวิตให้ดาเนินมาตรการในการจัดหาที่เก็บแสดงความเคารพและคืนซากศพของ ผู้เสียชีวิตแต่ละรัฐภาคีจะต้องรับรองในระบบกฎหมายของตนว่าเหยื่อจากการหายสาบสูญโดยถูก บังคับมีสิทธิที่จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนอย่างยุติธรรมเพียงพอและโดยพลัน สิทธิที่จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายครอบคลุมความเสียหายที่เป็นทั้งรูปธรรมและนามธรรมและหาก เหมาะสมการชดใช้ค่าเสียหายในรูปแบบอื่น อาทิ การทาให้กลับคืนสภาพเดิม การฟื้นฟู การทาให้ พอใจรวมถึงการคืนศักดิ์ศรีและชื่อเสียงการประกันว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก รัฐภาคีแต่ละรัฐจะต้องดาเนิน ขั้นตอนที่เหมาะสมเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของบุคคลที่หายสาบสูญซึ่งชะตากรรมยังไม่เป็น ประจักษ์และสถานะของญาติของบุคคลดังกล่าวในด้านต่างๆ เช่น สวัสดิการ สังคม การเงิน กฎหมาย ครอบครัวและสิทธิในทรัพย์สิน ทั้งนี้โดยไม่กระทบต่อพันธกรณีในอันที่จะดาเนินการการสืบสวนต่อไป จนกว่าจะทราบชะตากรรมของบุคคลที่หายสาบสูญโดยแน่ชัด รัฐภาคีแต่ละรัฐจะต้องประกันสิทธิที่จะ จัดตั้งและมีส่วนร่วมอย่างเสรีในองค์กรหรือสมาคมที่พยายามจะสืบหาสภาพแวดล้อมและชะตากรรม ของบุคคลหายสาบสูญและเพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (อนุสัญญาระหว่าง ประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ, 2006) ดังนั้น จากอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหาย สาบสูญโดยถูกบังคับที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นสรุปได้ว่า ประเทศไทยได้มีการภาคยานุวัติที่จะเข้าเป็นรัฐ ภาคีอันใกล้นี้ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เห็นชอบการลงนามใน อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับซึ่งมี วัตถุประสงค์เพื่อกาหนดให้การทาให้บุคคลหายสาบสูญโดยถูกบังคับเป็นฐานความผิดตามกฎหมาย อาญาที่เน้นการกระทาของเจ้าหน้าที่รัฐหรือการกระทาที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยรวมทั้ง กาหนดโทษของความผิดดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามการลงนามดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้กับประเทศ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3