การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
42 ช่วยเหลือ การยุยงหรือยินยอมไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการกระทาผิดหรือโดยการสนับสนุน ให้กระทาผิดถ้าเจ้าหน้าที่ที่สั่งการเช่นว่านั้น รู้หรือในสถานการณ์เช่นว่านั้นควรรู้ว่ามีการกระทาที่ บังคับบุคคลให้สูญหายโดยผู้ใต้บังคับบัญชา หรือโดยเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของตน และแทนที่จะดาเนินการป้องกันหรือบีบบังคับผู้กระทาไม่ว่าก่อน ระหว่างหรือในทันทีภายหลังการ กระทาเมื่อตนมีอานาจที่จะป้องกันหรือสืบสวนการกระทานั้นได้แต่ล้มเหลวในการป้องกันหรือสืบสวน ข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้นไม่ว่าโดยเจตนาหรือประมาทเลินเล่อและจะต้องรับผิดเช่นเดียวกับผู้เป็นตัวการ ในการกระทาผิดด้วยตามมาตรา 14 ส่วนบทลงโทษสาหรับผู้กระทาผิดโดยลาพังและผู้มีส่วนสนับสนุน การกระทาผิดให้ลงโทษแก่บุคคลผู้กระทาผิดโดยตรงฐานเป็นผู้ใช้กาลังบังคับบุคคลให้สูญหาย บุคคลผู้ ออกคาสั่งให้ใช้กาลังบังคับ ยุยง ส่งเสริม กระตุ้นหรือชักจูงบุคคลอื่นให้กระทาการบังคับบุคคลให้สูญ หาย บุคคลผู้ร่วมกระทาผิดฐานบังคับให้บุคคลสูญหายโดยกระทาความผิดกฎหมายอื่นซึ่งหาก ปราศจากการกระทาที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้วจะไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความมุ่งหมายเจ้าหน้าที่อื่น ซึ่งยอม ให้หรือยุยงส่งเสริมให้การกระทาผิดฐานบังคับบุคคลให้สูญหายเสร็จสมบูรณ์เมื่อมีอานาจหน้าที่ ที่จะ หยุดการกระทาหรือเปิดเผยการกระทาดังกล่าว และบุคคลผู้ซึ่งร่วมกระทาผิดฐานบังคับบุคคลให้สูญ หายก่อนหรือขณะกระทาความผิดและลงโทษสาหรับผู้กระทาผิดโดยลาพังและผู้มีส่วนสนับสนุน สาหรับการพยายามกระทาผิดฐานบังคับบุคคลให้สูญหายให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 6 ของ ประมวลกฎหมายอาญาที่แก้ไขใหม่ตามมาตรา 15 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐและพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ซึ่งถูกตรวจพบว่าเป็นผู้กระทาผิดหรือมีส่วนร่วมในการกระทาอย่างหนึ่งอย่างใดในความผิดฐาน บังคับบุคคลให้สูญหาย สอบสวนเบื้องต้นปรากฏผลเช่นว่านั้น อาจถูกสั่งพักราชการเป็นการชั่วคราว ขึ้นอยู่กับขอบเขตของพยานหลักฐานที่ปรากฏและรวบรวมได้จากการสอบสวนเบื้องต้นหรืออาจโดย คาแนะนาของเจ้าหน้าที่ผู้ทาการสืบสวนสอบสวนด้วยตามมาตรา 16 การกระทาผิดฐานบังคับให้บุคคลสูญหายจะมีผลทาให้ผู้กระทาผิดเองและเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ผู้ซึ่งเป็นผู้ดาเนินการรู้เห็นด้วยกันหรือยินยอมให้เกิดขึ้นกับการกระทาเช่นว่านั้นต้องรับผิดทาง แพ่งภายใต้กฎหมายแพ่งด้วยตามมาตรา 17 โดยความรับผิดทางอาญาของผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ย่อมเป็นอิสระ ต่างหากจากหรือไม่ทาให้เกิดอคติว่าผู้กระทาผิดเคยถูกฟ้องหรือปราศจากอคติจากการเคยถูกฟ้องและ การพิสูจน์ว่าได้กระทาผิดมาแล้วตามมาตรา 18 ไม่มีข้อยกเว้นหรือห้ามการดาเนินกระบวนพิจารณา ซ้าซ้อนโดยกฎหมายระหว่างประเทศ การสอบสวนของหน่วยงานหรือการพิจารณาพิพากษาของศาล ฟิลิปปินส์สาหรับการกระทาอย่างหนึ่งอย่างใดที่ฝ่าฝืนหรือละเมิดพระราชบัญญัตินี้อาจจะได้รับการ สอบสวนพิจารณาพิพากษาหรือดาเนินกระบวนการบริหารจัดการโดยศาลระหว่างประเทศหรือ เจ้าหน้าที่ภายใต้บังคับใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมตามมาตรา 19 ซึ่งถ้าหากผู้กระทาผิดคนใดสมัครใจให้ข้อมูลที่นาไปสู่การค้นพบหรือที่ถูกบังคับให้สูญหายหรือเป็น
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3