การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

61 2.9.4 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ประกาศ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลปัจจุบัน (ให้ใช้บังคับเมื่อ พ้นกาหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป) โดยที่เป็นการสมควรจึง ให้มีกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย ซึ่ง พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย มีเหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติ นี้ เพื่อให้ความคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหายซึ่งกระทาโดย เจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกัน ปราบปราม และ เยียวยาผู้เสียหายจากการกระทาในลักษณะดังกล่าว ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไข ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว พระราชบัญญัตินี้มีการกาหนด นิยามความหมายไว้เป็นลายลักษณ์อักษร อย่างชัดเจนในมาตรา 3 คือ "ผู้เสียหาย" หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือจิตใจ จากการทรมาน การกระทาที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทา ให้บุคคลสูญหาย และให้หมายความรวมถึง สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามี ภริยาซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรส ผู้อุปการะและผู้อยู่ในอุปการะของผู้ถูกกระทาให้สูญหาย "เจ้าหน้าที่ของรัฐ" หมายความว่า บุคคลซึ่งใช้อานาจรัฐ หรือได้รับมอบอานาจหรือ ได้รับการแต่งตั้ง อนุญาต สนับสนุน หรือยอมรับโดยตรงหรือโดยปริยายจากผู้มีอานาจรัฐให้ ดาเนินการตามกฎหมาย "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทาให้บุคคลสูญหาย "ควบคุมตัว" หมายความว่า การจับ คุมตัว ขัง กักตัว กักขัง หรือกระทาด้วยประการ อื่นใดในทานองเดียวกัน อันเป็นการจากัดเสรีภาพในร่างกายของบุคคล นอกจากนี้มีการบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควบคุมตัวหรือลักพาบุคคลใด โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิเสธว่า มิได้กระทาการดังกล่าว หรือปกปิดชะตากรรมหรือสถานที่ปรากฏตัว ของบุคคลนั้น ซึ่งส่งผลให้บุคคลนั้นไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ผู้นั้นกระทาความผิดฐาน กระทาให้บุคคลสูญหาย และการกระทาความผิดตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเป็นความผิดต่อเนื่อง จนกว่าจะ ทราบชะตากรรมของบุคคลนั้น ตามมาตรา 7 ซึ่งผู้เสียหายที่ไม่อยู่ในฐานะที่จะร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3