2566-1 นางสาวธรารินทร์ ณัฐวริทธิโภคิน -การค้นคว้าอิสระ

ค บทคัดย่อภาษาไทย บทคัดย่อ ชื่อการค้นคว้าอิสระ : การคุ้มครองสิทธิวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลภาคใต้ ชื่อ-ชื่อสกุลผู้ทำการค้นคว้า อิสระ : นางสาวธรารินทร์ ณัฐวริทธิโภคิน อาจารย์ที่ปรึกษาการค้นคว้า อิสระ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิดาภา พรยิ่ง ปริญญาและสาขาวิชา : ปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ ปีการศึกษาที่สำเร็จ : 2566 การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาการคุ้มครองสิทธิวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเลภาคใต้ การไร้สัญชาติและความไม่มั่นคงในพื้นที่ทำมาหากินสร้างรายได้ ในการคุ้มครองสิทธิวิถี ชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลภาคใต้ โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเป็นเชิงคุณภาพ ได้แก่การวิจัยเอกสาร เกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี กฎหมายระหว่างประเทศ ต่างประเทศ ประเทศไทยและการสัมภาษณ์เชิงลึก จากการศึกษา การคุ้มครองสิทธิวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลภาคใต้ พบว่า การที่ กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลไม่ได้รับสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้น พื้นฐาน และสวัสดิการต่าง ๆ ที่พึงได้จากรัฐ แม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดให้คนทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ ไม่ถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติหรือถิ่นกำเนิด และให้รัฐคุ้มครอง กลุ่มชาติพันธุ์ให้มีสิทธิดำรงชีวิตอย่างไม่ถูกรบกวน แต่สิทธิได้รับสัญชาติไทยนั้นให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2551 ให้ผู้ที่เกิดในราชอาณาจักรไทยได้สัญชาติไทยโดยการเกิด แต่ ไม่ได้ระบุถึงการได้รับสัญชาติของกลุ่มชาติพันธุ์ไว้ให้ชัดเจน นอกจากนี้ ความไม่มั่นคงในที่อยู่อาศัย เนื่องจากชาวเลอาศัยอยู่พื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ที่สามารถยืนยันได้ว่าชาวเลเป็นเจ้าของที่ดิน แม้ว่าได้ อยู่อาศัยก่อนที่รัฐจะประกาศให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อีกทั้ง การทำมาหากินของกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเล ที่มีรายได้จากการหาปลาในทะเล เมื่อรัฐประกาศพระราชกฤษฎีกาให้พื้นที่ เกาะลันตา เกาะ หลีเป๊ะ และเกาะสุรินทร์ เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเป็นเขตทับซ้อนที่อยู่อาศัยและกำหนดเป็น เขตหวงห้ามไว้ ส่งผลให้ชาวเลที่หาปลาริมฝั่งทะเลเป็นอาชีพ ขาดที่ทำมาหากินในการสร้างรายได้ เลี้ยงชีวิตและครอบครัว ไม่มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด ข้อเสนอแนะ ให้แก้ไขและเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 โดยให้ กลุ่มชาติพันธุ์มีสิทธิได้รับสัญชาติไทย และให้แก้ไขและเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาทั้ง 3 ฉบับ ที่