2566-1 นางสาวปุณฑริก เกิดทิพย์-วิทยานิพนธ์

16 โพสต์ข้อความให้เจ้าของข้อมูลได้รับความเสียหาย อันส่งผลให้คนรอบตัวเข้าใจผิด 4) การด่าทอ ว่ากล่าว ด้วยถ้อยคาหยาบคาย ตอกย้าปมด้อย ทาให้เสียความมั่นใจ 5) การส่งข้อความ รูป วีดีโอ หรือรูปแบบอื่นใด ที่ทาให้บุคคลอื่นอับอายบนอินเทอร์เน็ต 6) การหยอกล้อ ยั่วโมโหจนอีกฝ่ายเผย ความลับที่น่าอายของตัวเองบนโลกออนไลน์ จากเว็บไซต์ (Kaspersky Lab, 2015) ได้ทาการศึกษา เรื่อง การกลั่นแกล้งรังแก บนสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศรัสเซีย โดยได้ทาการแบ่งรูปแบบของการกลั่นแกล้งทางสื่อสังคม ออนไลน์ออกเป็น 9 รูปแบบ ดังนี้ 1) การทะเลาะกันผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการส่งที่ หยาบคาย รุนแรง ผ่านกล่องข้อความ หรือห้องสนทนา 2) การทาให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายโดยการ เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ 3) การสร้างความเกลียดชังผ่านกิจกรรมกลุ่มออนไลน์ เช่น การลบ การ บล็อก หรือการกีดกันผู้อื่นออกจากกลุ่ม 4) การเปิดเผบความลับ นาข้อมูลส่วนตัวของผู้อื่นไปเผยแพร่ 5) การหลอกลวงให้ผู้อื่นเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแล้วนาไปเผยแพร่ 6) การแอบอ้างตัวตนของผู้อื่น 7) การสร้างบัญชีใช้งานปลอมเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่น 8) การสร้างบัญชีปลอมโดยขโมยอัตลักษณ์ออนไลน์ ของผู้อื่นแล้วนามาการใช้งานเพื่อหลอกลวง หรือทาลายชื่อเสียง 9) การก่อกวน คุกคาม ข่มขู่ผู้อื่น ซ้า ๆ หลายครั้ง สาหรับประเทศไทย (สรานนท์ อินทนนท , 2563) ได้แบ่งเป็นรูปแบบของการ กลั่นแกล้งทางสื่อสังคมออนไลน์ ออกเป็น 1) การแกล้งแหย่ ด้วยการด้วยการใช้คาพูดเหยียดหยาม หรือดูถูกในสื่อสังคมออนไลน์ 2) แอบเข้าใช้งานบัญชีสื่อออนไลน์ของผู้อื่นแล้วแกล้งโพสต์ข้อความ หรือรูปภาพที่น่าอับอายลงในสื่อออนไลน์ 3) การใส่ความโดยการนาเรื่องที่ไม่เป็นความจริง หรือเรื่อง น่าอับอายของผู้อื่นมาเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ 4) การสร้างบัญชีใช้งานปลอมในการส่งข้อความ หรือรูปภาพ เพื่อก่อกวนผู้อื่น 5) การกีดกันออกจากกลุ่ม โดยไม่มีปฏิสัมพันธ์ด้วย โดยใช้การบล็อก หรือลบบุคคลออกจากลุ่ม 6) การขโมยตัวตนของผู้อื่น โดยการสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่โดยใช้รูปภาพ ของบุคคลอื่น เพื่อหวังผลประโยชน์ในการหลอกลวงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ 7) การเผยแพร่ความลับ โดยการนาความลับของบุคคลอื่นไปเผยแพร่ 8) การก่อกวน คุกความ โดยการส่งข้อความซ้า ๆ เพื่อขู่ ให้บุคคลอื่นเกิดความหวาดกลัว 9) การล่อลวง โดยการใช้อุบายด้วยประการใด หลอกให้บุคคลอื่น เปิดเผยความลับ แล้วนาความลับนั้นไปเผยแพร่ให้ได้รับความเสียหาย 10) การคุกคามข่มขู่ อย่างรุนแรง โดยขู่ว่าจะทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือข่มขู่ว่าจะทาร้ายร่างกาย สรุปได้ว่า รูปแบบของการกลั่นแกล้งทางสื่อสังคมออนไลน์ แบ่งเป็น 5 รูปแบบ คือ 1. การเปิดโปงข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ โดยการเอาไปโพสต์หรือส่งต่อให้คนอื่นรับรู้ เช่น ภาพหลุด ภาพตลก ๆ เพื่อประจาน ทาให้อับอาย หรือเอาความลับของผู้ถูกกลั่นแกล้งไปเผยแพร่ บนสื่อสังคมออนไลน์ ทาให้ผู้ถูกกกลั่นแกล้งได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เกียรติยศ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3