2566-1 นางสาวปุณฑริก เกิดทิพย์-วิทยานิพนธ์

21 แทรกแซงโดยพลการ อีกทั้งไม่อาจถูกลบหลู่ในเกียรติยศชื่อเสียงได้ ต่อการก้าวล่วงในสิทธิเช่นว่านั้น บุคคลทุกคนต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองโดยกฎหมาย (ทิพาพร นะมาตร, 2551) โดยสิทธิในความเป็นส่วนตัวหรือ สิทธิส่วนบุคคล (Right to Privacy) ที่ประชุม IC (International Commission of Jurists) ได้ ให้ความหมาย ไว้ ในการประชุม เมื่อปี 1967 ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ว่าเป็น “สิทธิที่จะอยู่โดยลาพังโดยมีการรบกวนการแทรกแซง ในระดับที่น้อยที่สุด” ซึ่งมีการขยายความว่า หมายถึงสิทธิของปัจเจกชนที่จะดาเนินชีวิตโดย ได้รับการคุ้มครองจากสิ่งเหล่านี้ คือ 1. การแทรกแซงความเป็นส่วนตัว ครอบครัว และเคหะสถาน 2. การแทรกแซงในทางกายภาพ หรือศีลธรรม และเสรีภาพในทางความคิด 3. การกระทาต่อเกียรติยศและชื่อเสียง 4. การไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนความจริง 5. การเปิดเผยข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นส่วนตัว 6. การใช้ชื่อหรือรูปภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต 7. การสืบความลับ การติดตามเฝ้าดู และการรบกวน 8. การแทรกแซงการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน 9. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เป็นความลับ ซึ่งผู้กระทาได้มาจากการประกอบวิชาชีพ 10. การใช้งานในทางที่มิชอบซึ่งการติดต่อสื่อสารส่วนบุคคล โดยกล่าวได้ว่าขอบเขตที่บุคคลควรได้รับการคุ้มครองและการเคารพในสิทธิความเป็น ส่วนตัวก็คือ การดารงชีวิตอย่างเป็นอิสระ การมีสิทธิที่จะแสวงหาความสุขในชีวิตตามวิถีทาง ที่อาจเป็นไปได้และเป็นความพอใจ ตราบเท่าที่ไม่ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย รวมทั้งไม่ขัด ต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน (บรรเจิด สิงคะเนติ และคณะ, 2564) 2.2 กฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิและเสรีภาพ มีความเท่าเทียมและความเสมอภาค กัน ซึ่งถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองภายใต้หลักการของความตกลงระหว่าง ประเทศ การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งกลั่นแกล้งบุคคลอื่นจึงเป็นละเมิดเกียรติ และศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์ของผู้ถูกกลั่นแกล้ง อันขัดต่อหลักการภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกั บ สิทธิมนุษยชน ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. 1959 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. 1966 รายละเอียดดังนี้