2566-1 นางสาวปุณฑริก เกิดทิพย์-วิทยานิพนธ์
47 โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ .ศ . 2542 ให้ความหมายว่าคาว่า หมิ่นประมาท หมายถึง การแสดงกิริยาวาจาดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น และการหมิ่นประมาทตาม มาตรา 326 ต้องเป็นการใส่ความผู้อื่น ซึ่งเป็นการแสดงข้อเท็จจริงซึ่งให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย โดยอาจจะทา ด้วยการเขียน การพูด การพิมพ์หรือวิธีการอื่นใด ที่ทาให้ผู้อื่นเข้าใจว่าบุคคลนั้นกล่าวถึงใครหมายถึง ใคร และการใส่ความนั้นต้องเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ทาให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ถูกขาดความนับถือ หรือเป็นการประทุษร้ายต่อเกียรติที่บุคคลมีอยู่ในสังคม แม้ว่า ถ้อยคาที่กล่าวออกมานั้นจะเป็นถ้อยคาที่สุภาพหรือเป็นความจริงก็ตาม ก็เป็นความผิดฐานหมิ่น ประมาทได้เช่นกัน การแสดงความคิดเห็นที่อาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 326 จะต้องเป็น การยืนยันข้อเท็จจริงกับบุคคลที่สาม ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล โดยผลของการ กระทาน่าจะก่อให้ผู้ถูกใส่ความเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จากคนรอบข้าง เช่น การกล่าวใส่ความเรื่องเพศ เรื่องชู้สาว การค้าประเวณี เป็นต้น โดยจะต้องมีลักษณะเป็นการใส่ความ แบบเฉพาะเจาะจง ต้องชัดเจนเพียงพอให้บุคคลที่สามทราบว่าผู้ถูกใส่ความเป็นใครและการกระทาที่ ถูกใส่ความนั้นหมายความว่าอย่างไร โดยจะต้องเป็นพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับหรือน่ารังเกียจ จนน่าจะทาให้ผู้ที่ถูกใส่ความนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง (ไกรฤกษ์ เกษมสันต์, 2551) โดยคาว่าชื่อเสียงนั้น (ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ, 2555) ได้อธิบายไว้ว่า หมายถึง ค่าหรือราคา ที่บุคคลมีต่อบุคคลด้วยกัน ทั้งทางด้านสังคมและศีลธรรม การทาลายชื่อเสียง จึงถือได้ว่าเป็นการ ทาลายความสัมพันธ์ของบุคคล เป็นการกระทาในลักษณะใด ๆ ที่เป็นการลดทอนคุณค่าความเป็นคน ทาให้คนอื่นมองเราในลักษณะต่าลงไป ทั้งนี้ได้แบ่งประเภทของ ชื่อเสียงออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. ชื่อเสียงในลักษณะของทรัพย์สิน เกิดขึ้นมาจากการใช้ความรู้ ความสามารถ การใช้ ความพยามยามในการสร้างสรรคผลงาน การประกอบอาชีพ หรือหน้าที่การงานที่แสดงออกให้เห็นถึง ความมีค่าและสามารถที่จะตีเป็นราคาออกมาในรูปแบบของตัวเงินได้ 2. ชื่อเสียงในลักษณะของเกียรติยศ เกิดขึ้นมาจากบทบาททางสังคม หรือหน้าที่การงาน หรืออื่นใด อันเป็นที่ยอมรับนับถือของสังคม โดยชื่อเสียงเกียรติยศของบุคคลจะมีไม่เท่ากัน อันเนื่องมาจากความรู้ความสามารถ สภาพสังคม สภาพความเป็นอยู่ของบุคคล และเกียรติยศ ชื่อเสียงทางด้านนี้ไม่มีความแน่นอน มักจะขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล หรือแนวทางใน การดาเนินชีวิต ซึ่งหากมีการกระทาใด ๆ ที่มีลักษณะของการทาลายชื่อเสียงในลักษณะนี้ก็อาจจะ เปรียบเสมือนการทาลายโอกาสหรือชีวิตของบุคคล ๆ หนึ่ง และ 3. ชื่อเสียงในลักษณะของศักดิ์ศรี โดยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะ ความเป็นอยู่ เพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน แต่หากบุคคลถูกทาให้ศักดิ์ศรีลดน้อยลง คุณค่าของ ความเป็นมนุษย์ก็จะดูต่าลงไปด้วย ดังนั้นกฎหมายจึงได้มีการคุ้มครองในส่วนนี้ของบุคคลไว้ด้วย
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3