2566-1 นางสาวพัชราภรณ์ เรืองเพ็ง-การค้นคว้าอิสระ
61 การควบคุมการขอรับบริจาคหรือการเรี่ยไรของภาคเอกชน ตามพระราชบัญญัติควบคุมการ เรี่ยไร พุทธศักราช 2487 สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การเรี่ยไรที่ต้องขออนุญาต และการ เรี่ยไรที่ไม่ต้องขออนุญาต โดยการเรี่ยไรที่ต้องขออนุญาต ซึ่งแยกได้ 2 กรณี ประกอบด้วย การเรี่ยไร ตามมาตรา 6 ซึ่งอ้างว่าเพื่อประโยชน์แก่ราชการ เทศบาล หรือสาธารณประโยชน์ และการเรี่ยไรตาม มาตรา 8 คือ การเรี่ยไรบนถนนหลวงหรือในที่สาธารณะ หรือโฆษณาด้วยสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง หรือด้วยเครื่องเปล่งเสียง ส่วนการเรี่ยไรที่ไม่ต้องขออนุญาต ตามมาตรา 8 วรรคสอง ประกอบด้วย การเรี่ยไรเพื่อการกุศลสงเคราะห์ในโอกาสที่บุคคลชุมนุมกันประกอบศาสนกิจ การเรี่ยไรโดยขาย สิ่งของในงานออกร้าน หรือในที่นัดประชุมเฉพาะแห่งอันได้จัดให้ขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งผู้ได้รับ อนุญาตให้มีการออกร้าน หรือผู้จัดให้มีการนัดประชุมเป็นผู้จัดให้มีขึ้น และการเรี่ยไรอันเป็นการ กระทำเพื่อกิจการหรือการกุศลเล็กน้อยจำกัดในหมู่ญาติหรือเพื่อนฝูง โดยมิได้กระทำการโฆษณาในที่ สาธารณะ เมื่อเปรียบเทียบกฎหมายควบคุมการเรี่ยไรของภาคเอกชนกับกฎหมายควบคุมการเรี่ยไรของ หน่วยงานของรัฐพบว่า ในปัจจุบันได้มีข้อยกเว้นให้หน่วยงานของรัฐสามารถเรี่ยไรหรือเข้าไปมีส่วน เกี่ยวข้องกับการเรี่ยไรได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช 2487 และในบางกรณีก็ไม่ต้องขออนุญาตต่อคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ (กคร.) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2566 ข้อ 19 สำหรับ กรณีเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และมีมติคณะรัฐมนตรีให้เรี่ยไรได้ หรือการเรี่ยไรที่มีความจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายหรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากสาธารณภัยหรือเหตุการณ์ใดที่สำคัญ หรือ การเรี่ยไรเพื่อร่วมกันทำบุญเนื่องในโอกาสการทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน หรือการเรี่ยไรที่ หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อประโยชน์แก่หน่วยงานนั้นเองหรือเพื่อสาธารณประโยชน์ และ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้เงินหรือทรัพย์สินไม่เกินจำนวน 500,000 บาท หรือการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง กับการเรี่ยไรของบุคคลหรือนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตจาก กคร. แล้ว ซึ่ง กคร. ได้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษายกเว้นให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติ และการให้ความ ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐอื่นที่ได้รับอนุมัติ หรือได้รับยกเว้นในการขออนุมัติตามระเบียบนี้แล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดจากในภาวะวิกฤติของประเทศไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์อุทกภัย ไฟไหม้ป่า หรือการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ผ่านมามีการเปิดเรี่ยไรหรือขอรับบริจาค เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ อย่างมากมาย แต่สำหรับกรณีดำเนินการเรี่ยไรโดยภาคเอกชน ซึ่งโดยหลักจะต้องดำเนินการตามที่ กฎหมายกำหนดไว้ กล่าวคือ แยกเป็น 2 กรณี กรณีแรกการเรี่ยไรเพื่อประโยชน์ของราชการหรือ สาธารณประโยชน์ทุกกรณีไม่ว่าจะกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้เงินหรือทรัพย์สินจำนวนเท่าใด หรือ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3