2566-1 นางสาวพัชราภรณ์ เรืองเพ็ง-การค้นคว้าอิสระ
71 ในสาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้กำหนดบทลงโทษในการควบคุมการรับบริจาคหรือการเรี่ยไร ไว้ ตามพระราชบัญญัติการกุศล ซึ่งมีทั้งโทษทางอาญา และทางปกครอง ซึ่งโดยหลักแล้วกฎหมายของ สิงคโปร์ห้ามบุคคลใด ๆ ทำการเรี่ยไรหรือการระดมทุนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการตาม ระเบียบฯ หากฝ่าฝืนมีความผิดและต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่กระทำความผิดต่อเนื่อง จะถูกปรับไม่เกิน 100 ดอลลาร์ และมี บทกำหนดโทษแก่บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ทำการระดมทุน กรณีไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในเรื่องหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติ หากฝ่าฝืนมีความผิดและต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่มีความผิดต่อเนื่อง ปรับไม่เกิน 100 ดอลลาร์ต่อวัน ส่วนในกรณี คณะกรรมการออกคำสั่งทางปกครองแล้วบุคคลไม่กระทำการตาม จะถือว่าเป็นการกระทำความผิด ฐานขัดขืนคำสั่ง อาจถูกดำเนินการตามคำขอของอธิบดีต่อแผนกสามัญของศาลสูงในข้อหาขัดขืนคำสั่ง อีกทั้ง บุคคลใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือระเบียบใด ๆ ที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัตินี้ จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาอีกด้วย ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์บทกำหนดโทษของพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช 2487 สรุปได้ว่า บทลงโทษทั้งสี่มาตราดังกล่าว เป็นโทษที่มีอัตราโทษสถานเบามากเกินไป เนื่องจาก สภาพเศรษฐกิจของสังคมและค่าเงินบาทได้เปลี่ยนไปมาก โทษปรับที่บัญญัติไว้จึงล้าสมัย เมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น มีโทษจำคุกสูงแต่กลับมีโทษปรับน้อยไม่เหมาะสมกับ ความร้ายแรงของการกระทำความผิดนั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ขอรับบริจาคหรือมิจฉาชีพขาดความ เกรงกลัวต่อบทกฎหมายดังกล่าวหรืออาจเห็นว่าผลประโยชน์ที่จะได้จากการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายมี มากกว่าโทษที่จะได้รับตามกฎหมาย อีกทั้งในปัจจุบันการขอรับบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นที่ นิยมอย่างมาก และมีลักษณะวิธีการขอรับบริจาคที่หลากหลาย แม้ว่าจะมีบทบัญญัติกฎหมายอื่นที่ สามารถบังคับผู้กระทำการหลอกลวงหรือทุจริตได้ แต่ถ้าหากเป็นการกระทำโดยสุจริต มีเจตนาจะนำ เงินที่ได้รับไปใช้ตามวัตถุประสงค์จริงก็ไม่อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติการควบคุมการเรี่ยไร ทำให้ขาดหน่วยงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบควบคุมการดำเนินการใด ๆ ของกิจกรรมนั้นทั้งก่อนและหลังได้ ดังนั้น จึงเห็นว่าควรมีการแก้ไขปรับปรุงบทลงโทษให้โทษมีสถาน หนักขึ้น เช่นเดียวกับกฎหมายต่างประเทศ และให้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจ เพื่อให้การลงโทษและการควบคุมการขอรับบริจาคเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพมากที่สุด
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3