2566-1 นางสาวพัชราภรณ์ เรืองเพ็ง-การค้นคว้าอิสระ

บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผล การวิจัยนี้กำหนดวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิเคราะห์ถึงปัญหาและอุปสรรคของการใช้ บังคับกฎหมายควบคุมการขอรับบริจาคหรือเรี่ยไรเงินผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ( Social Media) ในระบบกฎหมายไทย และความหมาย ลักษณะ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการขอรับบริจาคผ่านสื่อ สังคมออนไลน์ ในเฉพาะประเด็นการขอรับบริจาคเงินผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งขอรับบริจาคโดย บุคคลทั่วไป นิติบุคคล หรือสมาคม ไม่รวมถึงหน่วยงานของรัฐและวัด เพื่อนำเสนอแนวทางและ มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการขอรับบริจาคเงินผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จากการศึกษาปัญหาการขอรับบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พบว่าการบริจาคในสังคมไทย นั้น เกิดจากค่านิยมของการให้ ความเชื่อ ความศรัทธาในความดี การปลูกจิตสำนึกให้บุคคลในสังคมมี ความเมตตา แบ่งปัน และพฤติกรรมการช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อสร้างสังคมแบบ พึ่งพาอาศัยให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งสอดคล้องกับหลักคำสอนของ 3 ศาสนาที่คนไทยนับถือ กล่าวคือ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์ เพราะมีอิทธิพลต่อทางด้านจิตใจและความ เชื่อในการทำความดีจะได้ผลบุญผลกุศลเป็นการตอบแทน แต่การบริจาคนั้นไม่ได้ส่งผลในด้านที่ดี เสมอไป เนื่องจากปัญหาการบริจาคที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่แค่เพียงผู้ขอบริจาคที่เป็นปัจจัยของ ปัญหาและก่อให้เกิดมิจฉาชีพขึ้น แต่ตัวบุคคลที่บริจาคหรือเป็นผู้ให้นั้นก็เป็นปัจจัยอีกส่วนหนึ่งด้วย เนื่องจากความใจดีมากเกินไป เพราะการบริจาคเกิดจากความเชื่อของศาสนาที่ว่าทำบุญไปแล้วไม่ควร ไปติดตามเพราะกลัวจะไม่ได้รับผลบุญ จึงปล่อยปละละเลยไม่ติดตามทวงคืน ส่งผลทำให้มิจฉาชีพได้ ใจที่ก่อให้เกิดการกระทำความผิดขึ้น อีกทั้งลักษณะรูปแบบของการขอรับบริจาคหรือการเรี่ยไรมีการ เปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาของเทคโนโลยี การสื่อสารและเผยแพร่ข่าวสารต่าง ๆ ในสื่อสังคม ออนไลน์เพิ่มมากขึ้น พฤติกรรมของคนไทยในการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลทำให้ การขอรับบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นวิธีการหนึ่งที่เป็นที่นิยม เพราะประชาชนทั่วไปสามารถ เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ผู้ขอรับบริจาคสามารถแสดงให้เห็นเหตุและผลในการขอรับบริจาคส่งถึงผู้คนได้ หลากหลายกลุ่ม ทำให้สามารถรวบรวมเงินหรือทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาได้เป็นจำนวนมากและ กระทำได้ในเวลารวดเร็ว แต่การดำเนินงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้การระบุตัวบุคคล ผู้รับผิดชอบทำการขอรับบริจาครวมทั้งการตรวจสอบยืนยันข้อมูล รวมทั้งการติดตามทำได้ยากซึ่งอาจ เป็นช่องทางของมิจฉาชีพในการหลอกลวงขอบริจาคเงินจากประชาชนได้ง่ายและสร้างความเสียหาย

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3