2566-1 นางสาวพัชราภรณ์ เรืองเพ็ง-การค้นคว้าอิสระ

76 การกำหนดเงื่อนไขของการทำการเรี่ยไรเท่านั้น แต่ไม่ได้บัญญัติอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการกำกับดูแล ติดตาม เพื่อให้การขอรับบริจาคนั้นเป็นไปในช่องทางที่ถูกต้อง ตามวัตถุประสงค์ หรืออำนาจการ สอดส่องตรวจสอบกิจกรรมเหล่านั้น จากผลการเปรียบเทียบกฎหมายต่างประเทศกับประเทศไทยนั้นพบว่า สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ห้ามไม่ให้บุคคลธรรมดาเป็นผู้ทำการขอรับบริจาคเอง เว้นแต่กระทำได้โดยเป็นอาสาสมัคร จ่ายซะกาต และสนับสนุนบุคคล การควบคุมกำกับดูแลของการขอรับบริจาคในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงควบคุมได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีการกระจายอำนาจในการควบคุมดูแลให้หลายหน่วยงานของรัฐบาล โดยแยกตามประเภทของงาน ซึ่งครอบคลุมไปถึงหน่วยงานของท้องถิ่น มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบใน การกำกับดูแลและควบคุมสมาคมและองค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรผ่านการดำเนินการ ตรวจเยี่ยมภาคสนาม พิจารณาคำขออนุญาตระดมทุนหรือรับบริจาค และยังมีหน้าที่การสนับสนุน และส่งเสริมให้ประชาชนบริจาค ตรวจสอบเงินที่ได้รับหลังจากได้รับคำขอใบอนุญาต เพื่อให้มั่นใจถึง การดำเนินการว่าไม่แสวงหาผลกำไร และในสาธารณรัฐสิงคโปร์มีการควบคุมกำกับดูแลองค์กร การกุศลทั้งหน่วยงานส่วนกลางและภาคส่วน ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลองค์กรการกุศลที่มี วัตถุประสงค์เพื่อการกุศล กำหนดและตรวจสอบการประพฤติมิชอบหรือการจัดการที่ผิดพลาดในการ บริหารองค์กรการกุศล, ดำเนินการสอบสวน, ดำเนินการแก้ไขหรือป้องกันการประพฤติมิชอบหรือการ จัดการที่ผิดพลาด, ออกมาตรการลงโทษ, รับเอกสาร, ค้นหาเอกสารเพื่อตรวจสอบ, แต่งตั้งผู้สอบ บัญชีเพื่อตรวจสอบ, จำกัดธุรกรรมหรือจำนวน ออกคำสั่งห้ามองค์กรการกุศลดำเนินการระดมทุน และดำเนินการเยี่ยมชมภาคสนามองค์กรการกุศล เพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรการกุศลให้ดีขึ้นและ เพื่อส่งเสริมธรรมาภิบาลและแนวปฏิบัติที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ ผลจากการศึกษาและวิเคราะห์มาตรการการควบคุมกำกับดูแลของภาครัฐ จึงควรแก้ไข กฎหมายการควบคุมกำกับของรัฐ ให้มีการกำหนดหน่วยงานผู้รับผิดชอบรับคำขออนุญาตทำการ เรี่ยไรผ่านช่องทางออนไลน์ และการปรับปรุงหรือเพิ่มช่องทางการขออนุญาตทำการเรี่ยไรผ่าน ช่องทางออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตได้ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและ สามารถควบคุมการเรี่ยไรได้มากขึ้น อีกทั้งการขอรับบริจาคเงินของเอกชนนั้น บทบัญญัติของ กฎหมายเปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาสามารถกระทำการขอรับบริจาคเพื่อนำเงินไปใช้กับวัตถุประสงค์ ในทางกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งได้อย่างอิสระ ประกอบกับการขอรับบริจาคที่กระทำโดยผ่านสื่อ สังคมออนไลน์ ยิ่งทำให้ยากต่อการควบคุมกำกับดูแล ดังนั้น ควรกำหนดห้ามไม่ให้บุคคลธรรมดาเป็น ผู้รวบรวมเงินบริจาคหรือดำเนินกิจกรรมหาทุนใด ๆ ด้วยตนเองโดยตรง แต่ควรกระทำผ่านรูปแบบ องค์กร นิติบุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อสังคมที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำการรับบริจาคหรือ กิจกรรมการกุศลหรือกิจกรรมช่วยเหลือสังคมด้านต่าง ๆ อีกทั้งกฎหมายควรบัญญัติให้อำนาจหน้าที่ แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะกำหนดเงื่อนไข ในการกำกับดูแล ติดตามตรวจสอบได้ทุกเมื่อ และเพิ่ม

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3